ประชุมยกร่างฟุตซอลครั้งที่ 1 สโมสรฟุตซอลไทยลีกพร้อมใจไม่ประท้วงผู้ตัดสินในสนาม รวมถึงเพิ่มกฎเหล็ก แก้ปัญหาแท็คติก ผู้รักษาประตูนอน ถ่วงเวลา และ ลงดาบนักเตะเดินสาย
การประชุมยกร่างระเบียบข้อบังคับฟุตซอล ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.61 เวลา 10.00น. ที่ห้องประชุม ชั้น5 อาคารเฉลิมพระเกียรติการกีฬาแห่งประเทศไทย โดยมี “บิ๊กป๋อม” อดิศักดิ์ เบญจศิริวรรณ ประธานพัฒนาฟุตซอลไทย ,นาย อนุสรณ์ พิมงา ฝ่ายพิจารณามารยาทและข้อประท้วง ,ไกรสร พันธ์เพียร ประธานฝ่ายพัฒนาผู้ตัดสิน ,ประเสริฐ ครุธศรี เลขาฝ่ายพัฒนาผู้ตัดสิน ,วิศิษฐ เกยานนท์ ประธานจัดการแข่งขัน ฟุตซอลไทยลีก และคณะกรรมการซึ่งมาจากประธานสโมสร ,ผู้จัดการทีม โค้ชและทีมงานสต๊าฟฟ์โค้ช จาก 14 สโมสร ในศึก เอไอเอส ฟุตซอลไทยลีก2018 รวมถึงตัวแทนสโมสรจาก ฟุตซอลดิวิชั่น 1 เข้าร่วมลงมิติการยกร่างระเบียบในครั้งนี้
โดยสาระสำคัญในการแก้ไขร่างระเบียบข้อบังคับในครั้งที่ 1 นี้ ได้มีการลงมิติผ่านที่ประชุมมีเรื่องของ การห้ามไม่ให้ผู้เล่นที่ไปค้าแข้งในลีกต่างประเทศกลับมาเล่นระหว่างที่ การแข่งขันฟุตซอลไทยลีกได้เริ่มการแข่งขันไปแล้ว หรือ การแข่งขันในลีกนั้นๆยังแข่งขันไม่จบ รวมถึง ห้ามไม่ให้นักเตะของสโมสรออกไปเล่นในการแข่งขันรายการพิเศษต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ทั้งนี้จะมีการเพิ่มเกี่ยวกับรายละเอียดกฎในข้ออีกครั้ง
อีกทั้งยังมีการร่างระเบียบ กติกาขึ้นมาอีก 1 ข้อ เพื่อที่จะใช้แก้ปัญหาแท็คติกของสโมสร ในเรื่องของการนอนถ่วงเวลาเพื่อดึงเกมการแข่งขันให้ช้าลง และปัญหาที่พบเห็นมากในขณะนี้คือ แท็คติกการนอนถ่วงเวลาของผู้รักษาประตู ซึ่งเป็นตำแหน่งสำคัญที่ทำให้เกมนั้นมักจะหยุดชะงักและผู้ตัดสินจำเป็นต้องเป่าหยุดเกมทันที โดยได้มีมิติร่วมกันในเบื้องต้นว่าจะให้มีการนับจำนวนและเตือนในครั้งแรกและครั้งที่สอง หลังพิจารณาแล้วว่าไม่สมเหตุสมผล ซึ่งหากมีการกระทำเกิดขึ้นในครั้งที่ 3 จะต้องเปลี่ยนตัวออกจากสนามและโดนใบเหลือง อย่างไรก็ดีทางฝ่ายพัฒนาผู้ตัดสินจะนำเรื่องนี้ไปหาทางแก้ไขเพิ่มเติมและจะนำเข้าสู่ที่ประชุมในครั้งต่อไป เพื่อหารือทางแก้ปัญหาและลงมิติอีกครั้ง
อีกหนึ่งประเด็นที่ยังคงมีการพูดถึงคือเรื่องของการทำหน้าที่ของผู้เล่นตัดสิน ซึ่งการประชุมครั้งนี้ ได้มีการแชร์ความคิดเห็นมุมมองระหว่างฝั่งของสโมสรและฝ่ายผู้ตัดสิน รวมถึงจากตัวแทนของสโมสรที่เคยผ่านการทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสินมาก่อน โดยตัวแทนจากแต่ละสโมสรได้มีการลงความเห็นเพื่อขอความร่วมมือ และมีข้อตกลงร่วมกันว่า โค้ชและทีมงานเจ้าหน้าที่ของทีม จะไม่เข้าไปประท้วงการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินในสนาม หรือแสดงกิริยาท่าทางหรือพูดเพื่อกดดันการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินในระหว่างแข่งขัน รวมถึงจะมีการพยายามห้ามปรามนักเตะไม่ให้เข้าไปล้อมกดดันผู้ตัดสิน เพื่อที่จะช่วยลดเรื่องของข้อผิดพลาดที่เกิดจากความกดดันในสภาพแวดล้อม และเพื่อแสดงการเคารพให้เกียรติในการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินมากขึ้น อีกทั้งในแมตช์ฟุตซอลไทยลีกนัดสุดท้านของเลกแรกในวันที่14-15 ก.ค. จะมีผู้ตัดสินฟีฟ่า จากประเทศเวียดนาม เข้ามาร่วมตัดสินเกมด้วยซึ่งอยู่ระหว่างรอยืนยันว่าจะเป็นคู่ไหน