“รีแบรนดิ้ง” ส.บอล จับมือผู้เชี่ยวชาญระดับโลก ออกแบบโทรฟี่ไทยลีกทั้ง 5 ระดับ
จากการที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯได้มีการปรับเปลี่ยนแบรนด์การแข่งขันจาก ‘ไทยพรีเมียร์ลีก’ มาเป็น ‘ไทยลีก’
ที่มีการใช้โลโก้เดียวกันตั้งแต่ลีกสูงสุดไปจนถึงลีกระดับล่างสุดของประเทศ แน่นอนว่ามีย่อมมีบางสิ่งที่ต่างออกไปจากเดิม…
นอกจากจะมีการปรับลดทีมใน โตโยต้า ไทยลีก จาก 18 เหลือ 16 ทีมในฤดูกาล 2019 แล้ว เร็วๆ นี้ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของถ้วยรางวัลเช่นกัน
เหมือนอย่างออสเตรเลีย ที่มีการเปลี่ยนแปลงจาก เนชั่นแนล ซอคเก้อร์ ลีก มาเป็น เอ-ลีก เมื่อปี 2005 ก็มีการเปลี่ยนมาเป็นถ้วยรางวัลที่ใช้อยู่จนถึงปัจจุบัน
หรืออย่างลีกระดับท็อป 5 ของยุโรปอย่าง ลีก เอิง ของฝรั่งเศส ก็ยังมีการเปลี่ยนมาใช้โทรฟี่ L’Hexagoal ซึ่งถูกมอบให้กับ โอลิมปิก ลียง ทีมแชมป์ฤดูกาล 2007/08
หลังใช้ของเก่าจากการที่เปลี่ยนชื่อจาก ดิวิชั่น 1 มาเป็น ลีก เอิง เพียงแค่ 5 ปี
นั่นทำให้เราไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าการเปลี่ยนแปลงถ้วยรางวัลกลายเป็นส่วนหนึ่งของการ “รีแบรนดิ้ง” ในอุตสาหกรรมกีฬายุคใหม่ไปแล้ว…
ดังนั้น สมาคมฯจึงได้จับมือกับ จอห์น นิกซ์, ปีเตอร์ วิลสัน และ คิม เซาแธม ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตเครื่องเงินด้วยมือที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก
ร่วมกันออกแบบ ควบคุมการผลิต และรังสรรค์โทรฟี่ฟุตบอลลีกทั้ง 5 ระดับของไทยขึ้นมาใหม่ ซึ่งจะมีความคล้ายคลึงกันในเรื่องของรูปแบบ
เพื่อเป็นนัยยะว่าสมาคมฯ ต้องการที่จะพัฒนาฟุตบอลทุกระดับของไทย ให้ก้าวสู่ความเป็นสากลไปพร้อมๆกัน แม้ว่าอาจจะต่างกันบ้างในเรื่องของวัสดุที่ใช้ก็ตาม
บ่งบอกถึงความเป็นไทยแท้
เนื่องจาก ไทยลีก และ เอฟเอ คัพ คือรายการแข่งขันภายในของเมืองไทย ดังนั้นสมาคมฯจึงมองว่าตัวโทรฟี่ต้องสะท้อนถึงเอกลักษณ์ของประเทศให้ได้มากที่สุด
นั่นทำให้ตัวฐานจึงเป็นลายไทยลีกที่คล้ายลายกนก ขณะที่ตรงยอดเป็นดอกบัวที่รองรับลูกฟุตบอลอยู่
โดยดอกบัวเป็นสัญลักษณ์ของความสุขและความเป็นสิริมงคล ดังนั้นจึงมีความหมายที่เหมาะกับทีมแชมป์เป็นอย่างยิ่ง
เช่นเดียวกับถ้วย เอฟเอ คัพ ที่มีการแกะสลักลายกนกทั้งตรงฐาน ตรงกลาง ขอบถ้วยด้านบน รวมถึงหูจับ เพื่อแสดงความเป็นไทยแท้เช่นเดียวกัน
ซึ่งที่มาของลายกนก มาจากหางไหล ซึ่งเป็นลายที่มาจากลักษณะของเปลวไฟ บ่งบอกถึงเกมการแข่งขันที่สนุก ตื่นเต้น เร้าใจ อันเป็นสเน่ห์ของฟุตบอลน็อคเอ้าท์ ที่รู้ผลกันในนัดเดียว
ฝีมือช่างเงินระดับสากล
ทั้งถ้วยฟุตบอลไทยลีก 5 ดิวิชั่น และ เอฟเอ คัพ เกิดจากการร่วมมือกันออกแบบของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตเครื่องเงินด้วยมือจากสหราชอาณาจักร
ซึ่งได้รับการยอมรับในฝีมือจากระดับนานาชาติอย่าง จอห์น นิกซ์, ปีเตอร์ วิลสัน และ คิม เซาแธม
โดยในส่วนของ จอห์น นิกซ์ และ ปีเตอร์ วิลสัน พวกเขาฝากฝีมือไว้กับรางวัลนักเตะชายยอดเยี่ยมแห่งปีของยูฟ่า ที่บรรดาแข้งระดับโลกอย่าง
คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ลิโอเนล เมสซี่, ฟร้องค์ ริเบรี่ และ อันเดรส อิเนียสต้า ครอบครองมาแล้ว
นอกจากนี้ รางวัลนักเตะหญิงยอดเยี่ยมของยูฟ่า และฟุตบอลหญิงแชมเปี้ยนส์ ลีก ก็เป็นผลงานของพวกเขาเช่นกัน แต่นิกซ์เองก็ไม่ได้มีทำเฉพาะถ้วยรางวัลฟุตบอลเท่านั้น
เขายังทำเครื่องเงินที่เป็นคอลเลคชั่นสำหรับการอภิเษกสมรสระหว่างเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์กับเจ้าหญิงไดอาน่า รวมถึงกีฬาชนิดอื่นๆ อย่าง โปโล และ คริกเก็ต ด้วย
อย่างไรก็ตามนิกซ์ไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับชาวเอเชีย เพราะเขาเคยถวายงานให้กับสุลต่านรัฐยะโฮร์ของมาเลเซีย, สุลต่านและเจ้าชายแห่งบรูไน เช่นเดียวกับสุลต่านโอมานมาก่อน
เช่นเดียวกับ คิม เซาแธม ที่มีผลงานหลากหลายทั้งโทรฟี่ลีกซาอุดีอาระเบีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, กีฬาเคอร์ลิงชิงแชมป์โลก, กอล์ฟหญิง สก็อตติช โอเพ่น ไปจนถึงรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติของสหราชอาณาจักร
เป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียว
ด้วยความเป็นไทยที่ทางสมาคมฯพยายามจะสื่อสารออกมาผ่านถ้วยรางวัล ผสมผสานกับความเป็นสากลของทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ทำให้โทรฟี่ ไทยลีก และ เอฟเอ คัพ มีความเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่สามารถหาได้จากที่ไหน
เนื่องจากผลงานของพวกเขาเป็นแบบทำมือ หล่อขึ้นมาชิ้นต่อชิ้น นอกจากนี้ยังมีการใช้ดีไซเนอร์ออกแบบทั้งในและนอกองค์กร ทำให้มีต้นแบบเฉพาะตัวมากมายกว่า 100 รูปแบบด้วยกัน
ซึ่งคอนเซ็ปต์ในงานแต่ละชิ้นจะคงไว้ซึ่งความคลาสสิค ที่ให้อารมณ์ย้อนยุคแต่ก็ยังมีความร่วมสมัย เพราะมองไปถึงการใช้งานในระยะยาวที่อาจมีการส่งต่อจากรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่ง
ดังนั้นทั้ง 2 ถ้วยจึงถูกสร้างขึ้นจากพื้นฐานของวัฒนธรรมไทยที่มีความเก่าแก่ พร้อมให้ประวัติศาสตร์ฟุตบอลไทยจารึกลงบนโทรฟี่นั้น
น่าสนใจเหลือเกินว่า ถ้วยไทยลีกโฉมใหม่ที่จะเปิดตัวในเดือนตุลาคมจะออกมาหน้าตาเป็นอย่างไร…
เครดิต : FA Thailand