ข่าวฟุตบอล“รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค” แจงเบื้องหลังมาท่าเรือ ยันพร้อมเปลี่ยนทีมให้ดุดันกว่าเดิม
buaksib sport news
รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค

รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค ชี้แจงเบื้องหลัง การมาคุม การท่าเรือ เอฟซี และจะพยายามเปลี่ยนทีมให้ดุดัน เลิกหมดแรงเร็ว และก้าวไปลุ้นแชมป์

รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค เผยเบื้องหลังการมาคุม การท่าเรือ เอฟซี และจะพยายามเปลี่ยนแปลงทีมให้ดุดัน กว่าเดิม

สำหรับ โค้ชอัน เพิ่งแยกทางกับ โปลิศ เทโร เอฟซี ก่อนจะเปิดตัวคุม การท่าเรือ อย่างเป็นทางการ

“ความรู้สึกก็ปกติ อาจจะเปลี่ยนเรื่องสภาพทีม และปรับตัวเข้ากับทีมสตาฟฟ์ และนักฟุตบอลเล็กน้อย แต่ก็ไมได้แปลกใหม่เท่าไหร่ ก็อาจจะปุปปัปนิดหน่อย ก็ได้คุยกับคุณไบรอันก่อนเกม และคุยกันเรียบร้อยแล้ว และแจ้งก่อนเกมว่าอนุญาต เป็นอะไรที่ก่อนเกมก็ตกใจ ที่เขาอนุญาตด้วย และเราเองก็ยังไม่ได้ชัดเจนกับที่นี่ ยังไม่ได้คุยอะไรเลย และได้ตัดสินใจคุยกับคุณ ไบรอัน ไปแข่งกับลำพูน แล้วก็ประกาศลาออกหลังเกม ต้นเรื่องคุณไบรอัน ถามว่า เราไม่มีความสุขกับการเปลี่ยนเจ้านายใหม่ใช่ไหม ผมก็บอกว่า เราน่าจะหมดเวลามานานแล้ว แต่เราอยู่เพราะเราผูกพัน และอยากทดแทนบุญคุณ คุณไบรอัน อย่างที่ทุกคนทราบ ก็อยากขอบคุณพี่บุ๊งด้วย ที่เชื่อมั่นเรา และส่งเราเรียนโปร ไลเซนส์ด้วยก็อยากตอบแทนบุญคุณ พอเปลี่ยนเจ้านายใหม่ เราก็ไม่อยากไปต่อ คุณไบรอัน ก็บอกว่าเราทดแทนบุญคุณหมดแล้ว แกอนุญาตให้ไป ก็เลยปุปปัป ที่แกอนุญาติ” โค้ชอ้น กล่าว

“ทางท่าเรือเป็นทีมเดียวที่แสดงเจตจำนงค์อยากได้เราที่สุด ตอนนั้นก็มีข้อเสนอ แต่เราก็ยังไม่ได้คุยกับใครจริงจัง พอหลังข่าวออก ท่าเรือ ก็แสดงความจำนงค์อยากให้เรามา ด้วยที่เป็นท่าเรือด้วย ก็ยากถ้ามีข้อเสนอเข้ามาก็ยากที่จะปฏิเสธ ก็เป็นทีมที่พร้อมมาตลอด ตั้งแต่ในอดีต รวมถึง ปัจจุบัน ที่คุณแป้งมาเป็นประธาน ทีมก็อยู่ในจุดที่มีนักเตะคุณภาพมาตลอด ความพร้อมของทีมหลายอย่าง ถ้าเปรียบเทียบกับที่ผ่านมา ก็บอกตรงๆว่าพร้อมกว่า โค้ชทุกคนก็อยากได้นักเตะที่มีคุณภาพในมือ แต่ว่า ณ เวลานั้นเราไม่มีโอกาส แต่พอได้มาทำทีมที่มีคุณภาพ ผมคิดว่ามันท้าทาย บางคนอาจจะบอกว่ากดดัน เหมือนมาแปปเดียว ตามข่าว ส่วนตัวไม่ได้กดดัน และไม่กลัวที่จะมาที่นี่ เพราะโค้ชทุกคนถ้าผลงานไม่ดี ก็ต้องไปตามธรรมชาติ ไม่ใช่แค่ท่าเรือ แต่ว่ามันกดดันแบบได้สู้ และรู้สึกว่างานโค้ชมันจะสนุกก็ต้องท้าทาย ไม่ได้อึดอัดใจ หรือกดดัน”

“ได้คุยกับเด็กในวันแรก ว่าท่าเรือมีนักเตะคุณภาพ แต่ที่ผ่านมา ท่าเรือใช้บอลโยนส่วนใหญ่ เพราะมีกองหน้าตัวใหญ่ต้องโหม่งได้ ก็บอกน้องตั้งแต่วันแรก พี่มาเปลี่ยน เพราะพี่ไมได้เชื่อว่า คนตัวใหญ่จะโหม่งได้ทุกลูก แต่ท่าเรือมีคุณภาพ ควรจะเล่นฟุตบอลสวยงามขึ้น และอาจจะต้องเป็นทีมใหญ่จริงๆที่ต้องเดินบีบ เพรสคู่ต่อสู้ เพื่อให้มันดุดันมากขึ้นเป็นสิ่งที่เราแชร์กับน้องๆ ว่าสไตล์การทำทีมของเรา ทุกคนอาจจะยังต้องปรับตัวเข้าหากัน ผมคนเดียวไม่ได้ เราต้องปรับด้วยกัน เป้าหมายทีมชัดเจนว่าใหญ่มาก”

“เรืองเอาอยู่ คือความร่วมมือ ที่ผ่านมานักเตะก็ให้ความร่วมมือ ทุกคนก็เป็นมืออาชีพ มันอาจจะขาดเรื่องความดุดัน หรือสไตล์การซ้อม เรามองว่าท่าเรือ นักเตะในช่วงท้ายเกมจะหมดแรงไม่ฟิต เราก็มองรู้สึก และคุยกับนักเตะว่าเราจะซ้อมหนัก เราเป็นทีมใหญ่ เรารู้อยู่แล้วว่าทุกเกมเราต้องเล่นเกมรุกเยอะ และมาโดนโต้กลับเสียประตูง่าย มันก็คือสิ่งที่ท่าเรือโดนประจำ ก็ต้องปิดจุดบกพร่อง แต่จุดดีก็ยังเยอะกว่า”

“ผมไม่รู้ว่าที่นี่เริ่มมาแต่แรกอย่างไร แต่ก็ได้แชร์กับคุณแป้ง คุณเอ ว่าส่วนตัวที่มองว่าการเล่นในบ้านแข็งแกร่งมาก เพราะว่าแฟนบอล นักฟุตบอลอยากเล่นเพื่อแฟนบอล แต่เกมเยือนเรารู้สึกว่าน้องๆ พอไปเจอสนามที่ขนาดใหญ่ พอนาที 70 ไป นักเตะก็หมดแรง ก็วางแผนว่าก่อนเกมเยือนก็อยากไปซ้อมในสนามไซส์จริงมากกว่านี้ ซึ่งก็ได้แชร์ มันสำคัญในเกมนอกบ้าน คุณแป้งคุณเอก็เห็นด้วยว่าจะเปลี่ยนอะไรได้บ้าง”

“โปรแกรมมันก็สวนกัน อยู่เทโร เจอโปรแกรมหนักมาหมดแล้ว พอมาท่าเรือ ที่นี่ก็เจอยังไม่หนัก และกำลังเจอทีมใหญ่ก็รู้สึกว่า ยังไงก็ต้องเจออยู่ดี จะมาช้ามาเร็ว ยังไงทีมมีเท่านี้ ก็ต้องเจอ สนุกดี และท้าทายดีด้วย รู้สึกว่า ทีมอยากเกาะกลุ่มหัวตารางลุ้นแชมป์ก็ต้องเอาตัวรอด ผ่านให้ได้ ด้วยความคาดหวัง เป็นสิ่งที่อยู่เหนือความควบคุม เราเปลี่ยนอะไรไม่ได้ ก็เปลี่ยนมาเชียร์พวกเราที่บ้านเยอะๆ ผมก็เป็นแค่ส่วนหนึ่ง ในการทำให้ก่อนบอลแข่งมีบรรยากาศดีที่สุด ให้นักเตะทุกคนสนุกที่สุดกับการซ้อม และวันแข่ง หน้าที่โค้ชก็จบลงแล้ว เราควบคุมผลไม่ได้ น้องๆก็ต้องทำเต็มที่ การคาดหวังแฟนบอล มาดูแล้วเราจะแพ้ จะต้องถูกด่า ก็เป็นโค้ชที่ต้องรับเป็นปกติ ไม่ได้รู้สึกกดดัน ตกใจหรือกลัว ก็ต้องรับให้ได้ เราไม่ได้เพิ่งมาแล้วเพิ่งรู้ เรารู้อยู่แล้วว่ามันท้าทายดี ก็มองบ้าง แต่ก็มีน้องๆ ที่ได้แชร์กับผู้ใหญ๋ ทีมก็ค่อนข้างใหญ่ น้องหลายคนก็มีความสามารถ แต่ยังไมได้โอกาส ก็ลองดูว่าถ้าสู้ด้วยกัน ถ้าน้องยังไม่มีโอกาส ก็ควรปล่อยให้เขาไปหาโอกาส ไปมีเกม อาจจะดูบางคนที่ทีมปล่อยยืมอาจจะเข้าสไตล์ของเรา เราอาจจะเอากลับมา ก็ต้องลองดู”

“สไตล์ผมกับเทโร ทำเกมรับมาตลอด พอช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาก็ต่อให้คุณภาพเท่านี้เราก็อยากเล่นเกมรุก ก็ได้คุยกับน้องในทีมท่าเรือ ยิ่งทีมท่าเรือ เราต้องเล่นเกมรุกเยอะๆ แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ เมื่อเสียบอลถ้าทุกคนเดินปล่อยให้คู่ต่อสู้โต้กลับ มันเกิดปัญหาแน่นอนเพราะพื้นที่ด้านหลังมันเยอะ ก็ต้องปรับในการเล่นเกมรุก และเมื่อเสียบอลต้องดุดัน เดินไล่บีบ และเอาบอลกลับมาจริงๆ วันนี้เป็นวันที่ 3 ของผม ก่อนหน้านี้ก็มีเวลาไม่เยอะ เราก็เริ่มพยายามปรับเปลี่ยน มาดูกันว่าผมจะปรับเปลี่ยนทุกคนได้แค่ไหน”

“ถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ อะไรมันก็เกิดขึ้นได้หมดอาจจะมีบ้างที่เราพลาดแต้ม ในทีมที่ลุ้นแชมป์ในเกมสำคัญ โดนแบงค็อกนำและแข่งน้อยกว่า ถ้าเขาไม่พลาด ทีมลุ้นแชมป์ก็ค่อนข้างเยอะในมุมกลับกัน เราคงมองใครไมได้ถ้าเราต้องการกลับสู่เส้นทาง ห้าเกมที่เหลือ เราต้องไม่พลาด และเราจะมีโอกาสสู้ในเลกสองต่อ ตัวที่มีอยู่กับการที่เรามีโอกาสเปลี่ยนตัวในเลกสอง ถ้าจบเลกแรกเราตามหลังไม่เกินตามที่เราหวัง หรืออาจจะใกล้ขึ้น เป้าหมายของทีมและส่วนตัวก็ท้าทาย ในฐานะโค้ช เราก็อยากประสบความสำเร็จ ฝากแฟนบอลท่าเรือ ผมเป็นคนใหม่ของที่นี่ รับรู้ถึงบรรยากาศ เสียงเชียร์ ผลการแข่งขัน ขอเชิญชวนให้มาช่วยกดดัน ส่งเสียงเชียร์นักเตะให้เยอะๆ ให้มันดัง และกดดันคู่ต่อสู้ ก็จะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เท่าที่ผมจะทำได้ เป้าหมายจริงๆ ก็คงไม่ต่างจากแฟนบอล ก็มาที่นี่เพื่อประสบความสำเร็จ ก็ขอเชิญแฟนบอลท่าเรือมาที่สนามเยอะๆ”

buaksib sport newsbuaksib sport news