ยาคุบ สโตลาร์ซิค ชี้แข้ง เลสเตอร์ ซิตี้ พอใจเกมแพ้ เชลซี ในเกม เอมิเรตส์ เอฟเอ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ
ยาคุบ สโตลาร์ซิค เผยว่า เลสเตอร์ ซิตี้ ได้แสดงให้เห็นถึงฟอร์มการเล่นที่ดี ในเกม เอมิเรตส์ เอฟเอ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ ที่พ่ายแพ้ต่อ เชลซี เมื่อคืนวันอาทิตย์
ทีมของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า พ่ายทีม สิงโตน้ำเงินคราม 2-4 ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อวันอาทิตย์ โดยเริ่มครึ่งหลังด้วยการตามหลังถึงสองประตู ก่อนที่ คัลลั่ม ดอยล์ จะถูกไล่ออก และเชลซีก็กดดันจนสำเร็จ ได้สองประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทำให้ผ่านเข้าสู่รอบสี่ทีมสุดท้ายได้ในที่สุด
“ผมคิดว่าเราทุกคนภูมิใจกับผลงานของเรา” นายทวารรายนี้กล่าว “แน่นอนว่าพวกเราผิดหวังเล็กน้อย เพราะเราแค่รู้สึกว่าเรามีโอกาส แต่เราก็ทำมันได้ดีแล้ว”
“ในเกมบอลถ้วยแบบนี้ ทุกอย่างในเกมนั้นเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และน่าเสียดาย เราโดนใบแดง และตั้งแต่ตอนนั้นพวกเขาก็เป็นฝ่ายบุกมากกว่าในช่วงสองสามนาทีสุดท้าย”
“ใครจะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้าลูกนั้นไม่เข้าประตูไป คุณไม่มีทางรู้เลยว่ามันจะต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาทีหรือไม่ แต่เราทุกคนก็ภูมิใจกับสิ่งที่มันเกิดขึ้น และตอนนี้เราจำเป็นต้องกลับมาโฟกัสในลีก”
การออกสตาร์ทเป็นตัวจริงตลอดเกม เอฟเอ คัพ และลงเล่นบอลถ้วย 7 นัดติดต่อกัน ผู้รักษาประตูวัย 23 ปีรายนี้ เซฟจุดโทษของ ราฮีม สเตอร์ลิ่งได้ ในครึ่งแรก และเป็นผู้สั่งการในแนวรับ
นายทวารชาวโปแลนด์ กล่าวต่อว่า “ผมพยายามอย่างเต็มที่แล้วจริงๆ พยายามช่วยทีม เพราะผมรู้ว่าพวกเขาต้องการผมในวันนี้ เรารู้ว่า เชลซี นั้นอันตรายแค่ไหนโดยเฉพาะในเกมโต้กลับ”
“เราพยายามหลีกเลี่ยงมันให้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ แต่ด้วยผู้เล่นระดับท็อปที่พวกเขามีในแดนหน้า คุณก็รู้ว่าพวกเขาจะหาโอกาสได้อยู่เสมอ ผมดีใจที่สามารถช่วยทีมได้ เป็นเรื่องน่าเสียดายที่เราไปไม่ถึงจุดนั้นด้วยผลการแข่งขันที่เราต้องการ แต่ผมคิดว่าเราทุกคนควรภาคภูมิใจกับมัน”
“ทุกเกมที่ผมลงเล่นในฤดูกาลนี้ เป็นสิ่งที่ผมใฝ่ฝันมาตลอด การได้ลงเล่นที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ แถมยังเซฟจุดโทษได้อีก นั่นคือสิ่งที่คุณใฝ่ฝันเมื่อคุณยังเป็นเด็ก”
“แต่โดยรวมแล้ว ผมภูมิใจในผลงานของตัวเอง และการพัฒนาของผมตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว การได้ลงเล่นในลีกทู และปีนี้ได้ลงเล่นในสนามใหญ่ขึ้น กับสโมสรใหญ่ ส่วนตัวแล้วผมว่าการผ่านเข้าไปเล่นในรอบก่อนรองชนะเลิศเป็นสิ่งที่พิเศษสำหรับผม และผมคิดว่าสำคัญกับสโมสรในฤดูกาลนี้ด้วยเช่นกัน”
“ในมุมมองของแข้ง “จิ้งจอกสยาม” สเตฟี่ มาวิดิดี้ เป็นผู้ทำให้ทีมกลับมามีหวังอีกครั้งในช่วงเวลาที่เหลือของการแข่งขัน หลังจากการทำเข้าประตูตัวเองของ อั๊กเซล ดิซาซี่ และ สโตลาร์ซิค ก็มีมุมของของเขาเกี่ยวกับกับประตูที่เกิดขึ้นที่ตีเสมอให้กับทีม