อาร์เตต้า เริ่มโมโหหลังนักเตะในทีมที่ยังไม่เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด

มิเกล อาร์เตต้า เฮดโค้ช อาร์เซน่อล เริ่มมีน้ำโหกับนักเตะในทีมที่ยังไม่เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ตามมาตรการณ์ป้องกันโรคของกฏพรีเมียร์ลีก

นั่นเพราะหากผลตรวจเป็นบวกขึ้นมาจะสร้างภาระแก่ต้นสังกัดทั้งตัวบุคคลเองหรือทีมเมตก็พลอยต้องกักตัวฐานะผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ดังนั้นอยากกระตุ้นให้เห็นแก่ส่วนรวมเข้าลงเข็มให้ครบโดส

นักเตะ อาร์เซน่อล ดูขาดความตระหนักต่อเรื่องฉีดวัคซีนทั้งที่เห็นตัวอย่างจาก มิเกล อาร์เตต้า ติดโควิดเมื่อซีซั่นก่อน แต่หลายๆคนเมินเฉยเรื่องดังกล่าว

อย่างกรณีล่าสุด กรานิต ชาคา กองกลางหัวร้อนปฏิเสธการฉีดวัคซีนกับสโมสร จนสุดท้ายไปพบผลตรวจเป็นบวกระหว่างเก็บตัวทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์จึงยังกักตัวอยู่ที่นั่นพอดีต้องติดโทษแบนเกม พรีเมียร์ลีก อยู่แล้ว

หรือเคสก่อนนั้นก็เช่น เบน ไวท์, ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง, อเล็กซ็องด์ ลากาแซ็ตต์ หรืออดีตผู้เล่น วิลเลี่ยน นำมาซึ่งการกระตุ้นแกมขอร้องจากบอสให้ช่วยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม

“อันที่จริงมันเป็นมุมมองของใครของมันหากพวกเขาจะไม่เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด เพราะเราไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว แต่ย่อมโดนผลบ้าง” โค้ชวัย 39 ปี กล่าวก่อนดวล นอริช สุดสัปดาห์นี้

“ก็ขอยกตัวอย่างะหว่างการเดินทาง หากพวกเขาไม่ได้รับการฉีดวัคซีนเมื่อต้องไปอีกที่สู่อีกที่หรือในสถานการณ์ที่ต้องอยู่ร่วมกับคนหมู่มาก นั่นย่อมเพิ่มความเสี่ยงให้ติดไวรัสขึ้นมาก – เราก็ไม่อยากเปิดเผยว่าผู้เล่นคนไหนบ้างไม่ฉีดวัคซีน”

” เพราะท้ายที่สุดตัวทีมหรือสโมสร ก็ต้องรับผลหากพวกเขาเหล่านั้นเกิดติดโควิดขึ้นมา”

“เราจึงพยายามอธิบายเหตุผลกับนักเตะทำไมเชื่อว่าการฉีดวัคซีนคือเรื่องถูกต้องที่สมควรทำ”

“ประการแรกเหนืออื่นใดคือช่วยปกป้องสโมสร, ลำดับต่อมาคือปกป้องทีมเมต, สภาพแวดล้อมที่ต้องขลุกอยู่ด้วยกัน ซึ่งพอใครติดวัคซีนขึ้นมาก็โดนเผยตัวอยู่ดีว่าไม่ยอมฉีด”

“แต่ที่สุดแล้วมันก็เรื่องส่วนตัว ไม่มีการบังคับขืนใจ และเราเคารพกันเรื่องนั้น”

สหราชอาณาจักรคือภูมิภาคที่ติดโควิดสะสมมากสุดลำดับสี่ของโลกเกิน 7.1 ล้านคนไปแล้ว แม้มีการปูพรมฉีดวัคซีนให้คนในประเทศอย่างน้อยหนึ่งเข็มถึง 60%