มาโน โพลกิ้ง ยืนยันว่า ทีมชาติไทย จะเดินหน้าเข้าใส่ อินโดนีเซีย เหมือนเดิมแน่นอน เพื่อปิดจ็อบ และคว้าแชมป์อาเซียน สมัยที่ 6 มาครองให้ได้อย่างสวยงาม
มาโน โพลกิ้ง ยืนยันว่า ทีมชาติไทย จะเล่นตามแนวทางเดิม ด้วยการครองบอลบุกใส่อินโดนีเซีย เพื่อปิดฉาก ศึกชิงแชมป์อาเซียน 2020 ให้สวยงาม
เกมแรกไทย เอาชนะ อินโดนีเซีย มาได้ก่อน 4-0 จากการยิงของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ สองประตู และ สุภโชค สารชาติ กับ บดินทร์ ผาลา คนละประตู
“แน่นอนว่าเรามีเวลาเตรียมทีมสองวันจากเกมก่อน เพราะฉะนั้น เราก็เน้นที่การฟื้นฟูร่างกาย ส่วนคนที่ไม่ได้ เล่นก็ซ้อมตามปกติ เพื่อให้ทุกอย่างพร้อม” มาโน กล่าว
“สำหรับเกมวันพรุ่งนี้ เราต้องตัดสินใจจัดตัวผู้เล่น เมื่อวานก็ได้ย้ำว่า รอบชิงมันยังไม่จบ และผลการแข่งขันที่เราทำได้ดีในเกมแรก ก็ต้องทำต่อไปให้ดีอีกเกมหนึ่ง”
“เราต้องการเริ่มเกมให้ดี อีกครั้ง และทำผลงานให้ดี เพื่อจบเลกสองให้สวยงาม เหมือนกับเกมแรก”
“แน่นอนว่านักเตะในทีมต่างทำผลงานได้ดีหมดทุกคน แต่เราก็ปฏิเสธคุณภาพของชนาธิป ไม่ได้ เพราะว่าในสนาม และนอกสนาม สามารถแสดงความเป็นผู้นำที่ดี และคุณภาพเขาก็แสดงออกมาให้เห็น”
“เขากำลังมีทัวร์นาเมนต์ ที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะเกมสำคัญของเรา แต่อย่างที่บอก ทุกคนก็ต้องพยายามทำแบบชนาธิป ถ้ามีโอกาส ที่จะได้เล่นลีกที่แข็งแกร่งกว่าในบ้านเกิด ก็ต้องคว้าโอกาส”
“สิ่งที่ชนาธิป แสดงให้เห็นคือเขาคว้าโอกาสมาในเจลีก และกลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในเจลีก เพราะฉะนั้น ก็ต้องทำงานหนัก ถ้ามีโอกาสก็ต้องทำให้ได้”
“เรื่องสัญญาเรายังไมได้มีการพูดคุยกัน ตอนนี้ผมไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ เพราะเป้าหมายของเราคือการคว้าแชมป์รายการนี้ให้ได้ตามที่เราวางไว้ตั้งแต่แรก และเอาของขวัญไปฝากคนไทย”
“เกมรอบรองที่เจอกับเวียดนาม เลกแรก เรานำไปก่อน 2-0 และเราก็ต้องเจอกับบอลยาวมากขึ้น สถานการณ์ ณ ตอนนั้น คือเราต้องตั้งรับให้แน่น แม้เราไม่ถนัด แต่มันก็ถูกต้องนั่นคือสิ่งที่เราต้องทำในเกมนี้”
“เลกแรก เราเล่นได้ดีที่สุดในทัวร์นาเมนต์ ทำให้เราได้เปรียบมาก จากสถานการณ์ตอนนี้ เราไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมาตั้งรับ เราต้องการจบทัวร์นาเมนต์ ในแนวทางที่เราถนัด ด้วยการเปิดเกมรุก และครองบอล”
“เรื่องการแต่งตัวที่ไม่เปลี่ยนเสื้อผ้า ผมเองก็เชื่อว่าถ้าอะไรมันได้ผล อะไรมันดีอยู่แล้ว ก็ไม่อยากจะเปลี่ยน ถุงเท้า กางเกงในก็ตัวเดิม เสื้อกางเกงก็ตัวเดิม ก็ซักทุกครั้ง ตอนนี้ก็ซักแล้ว และพร้อมจะใสใหม่ในวันพรุ่งนี้”
“เรื่องอนาคตเป็นสิ่งสำคัญ นักเตะที่เพิ่งเข้ามาอย่างวีระเทพที่มาเล่นในรายการนี้ครั้งแรก ก็จะช่วยต่อยอดได้ และทำให้อนาคตของทีมชาติไทย ไปในทางที่ดี และต้องรักษาให้ได้”
“แต่ไม่ใช่แค่วีระเทพเท่านั้น หลายคนก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม อย่าง กฤษดา ที่เพิ่งอายุ 22 ปี และเล่นมาเกือบทุกนัด ในตำแหน่งที่ไม่ได้ถนัด แต่ว่าก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม”
“เรามีอนาคตที่ดี มันเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตทีมชาติไทย เรายังมีนักเตะที่ดีอีกมากมาย จากชุด U23 ที่ต้องไปแข่งที่อุซเบกิสถาน ทัวร์นาเมนต์นี้เราไม่ได้มีเวลามากมายในการคิดที่จะซ้อม เราใช้แค่ความรู้จัก”
“สิ่งที่เห็นจากนักเตะ เรารู้จักนักเตะชุดนี้ดี และเรียกตัวมารวมกัน ก็อธิบายแผนการเล่น มีความชัดเจน สุดท้ายมันอยู่ที่นักเตะ เราต้องให้เครดิตกับพวกเขา ที่รับฟังและเข้าใจ ทำได้ตามแผนในช่วงที่ผ่านมา จนถึงนัดชิงชนะเลิศ เลกที่สอง”
“แน่นอนว่าเป้าหมายของเราคือการเอาชนะในนัดชิงชนะเลิศในเกมที่สองก่อน และเราจะบอกว่าอนาคตหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร เราต้องชนะในเกมที่สอง เพื่อจบทัวร์นาเมนต์ให้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ”
ทั้งนี้ ทีมชาติไทย จะลงเล่นเกมนัดชิงชนะเลิศ นัดที่สอง กับอินโดนีเซีย ที่สิงคโปร์ เนชั่นแนล สเตเดียม ในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2565 เวลา 19.30 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง 7 เอชดี (หมายเลข 35) และ AIS Play