มาโน โพลกิ้ง พอใจกับฟอร์มที่สมบูรณ์แบบของทีมชาติไทย แต่ยืนยันว่าจะยังไม่ประมาทอย่างแน่นอนก่อนลงเล่นในเกมนัดชิงชนะเลิศ เลกสอง
มาโน โพลกิ้ง ชื่นชมฟอร์มการเล่นของ ทีมชาติไทย ที่สมบูรณ์แบบ พร้อมเตือนทีมว่ายังไม่สามารถประมาท อินโดนีเซีย ได้ในเกมที่สองของศึก ชิงแชมป์อาเซียน
ทัพช้างศึกทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมแรกของรอบชิงชนะเลิศ หลังชนะไปได้ก่อน 4-0 จากการยิงของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ สองประตู, สุภโชค สารชาติ และ บดินทร์ ผาลา
“วันนี้ก็เป็นชัยชนะที่ยอดเยี่ยมแต่ว่า ก็ต้องยกเครดิตให้กับทุกคนในทีม ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เกมนี้เราเปลี่ยนระบบ และผู้เล่น แต่แผนของเรานั้นชัดเจนอยู่แล้ว ถ้าผู้เล่นไม่สามารถทำได้ตามแผน มันก็ไม่ได้ผล แต่ทุกคนแสดงให้เห็นว่าเล่นได้ตามแผนตั้งแต่ต้นจนจบ ถือว่าเป็นชัยชนะที่สมบูรณ์แบบมาก แน่นอนว่า เราเปลี่ยนระบบในวันนี้ เอานักเตะใหม่ลงมา นักเตะที่ยังไม่ได้ลงมาก ต่างก็ทำผลงานได้ยอดเยี่ยม” มาโน กล่าวเริ่ม
“เรารู้ว่าอินโดนีเซีย มีผู้เล่นที่ดี โดยเฉพาะบริเวณริมเส้น เราก็เปลี่ยนระบบมาเป็น 4-2-3-1 เพื่อปิดเกมรุกริมเส้นของพวกเขา การเปลี่ยนตัวของเราค่อนข้างเสี่ยง ตอนที่เราต้องเสียเอเลียส ไป เพราะมีอาการบาดเจ็บ แต่ผมเลือกวีระเทพ ไปเป็นกองหลังแทน เพราะเราต้องการคุมเกม ครองบอล และรักษาแนวทางของเรา เลยตัดสินใจแบบนั้น มันเสี่ยงแต่สุดท้าย เขาทำได้ดี และมีผลงานที่ดี และเราก็สร้างโอกาสได้มากมาย และจบลงด้วยชัยชนะที่สมบูรณ์แบบ ผมเป็นเกียรติมากที่ได้โค้ชนักเตะทุกคนในชุดนี้ แต่มันยังไม่จบ เรายังเหลือเกมอีกนั้น เรายังไม่สามารถฉลองได้ ในตอนนี้เพราะว่ามันแค่ครึ่งทาง เราเหลืออีกเกม ที่ต้องเล่นอย่างมืออาชีพ ไปให้จบและจบเกมที่สองอย่างสมบูรณ์แบบ”
“ผมเข้ามาทำงานโดยมีเวลาไม่มากในการเตรียมทีม หลายคนไม่ค่อยเชื่อมั่นตัวผมเท่าไหร่ ในตอนแรก แต่สิ่งที่ผมชัดเจนคือ ผมมั่นใจในแนวทางการทำทีมของผม และนักเตะทุกคนที่มาอยู่กับเรา มันเป็นเป้าหมายของเราในการคว้าแชมป์ เพราะผมเชื่อในคุณภาพ และเชื่อว่าเราสามารถทำได้ ตอนนี้เราจับถ้วยมือหนึ่ง แต่มันยังไม่จบ เราต้องย้ำเรื่องนี้ เรายังเหลืออีกเกม เรายังมีหน้าที่อยู่ เราต้องทำให้มันสำเร็จก่อน”
“ชัยชนะในวันนี้หรือความสำเร็จที่เรากำลังจะได้มา มาจากผู้จัดการทีม เพราะผู้จัดการทีมเรารักฟุตบอล มีอำนาจ มีการสื่อสาร ประสานงานกับสโมสรต่างๆ ทั้งในและนอกประเทศ จนทำให้เรามีนักเตะ เราได้คุยกันตั้งแต่แรกว่าเราไม่มีเวลาในการซ้อม ก็ต้องขอความร่วมมือ ในการเอานักเตะจากสโมสรต่างๆ ก็ต้องขอบคุณผู้จัดการทีมเป็นอย่างมาก”
“การเปลี่ยนนักเตะมากมายในเกมนี้ วันนี้ต้องให้เครดิตนักเตะทุกคน ผมเป็นเกียรติที่ได้โค้ชพวกเขาทุกคน ส่วนการเปลี่ยนผู้รักษาประตู ผมก็อยากอธิบายว่าเราไม่ได้ไม่เคารพอินโดนีเซ๊ย แต่คุณพ่อของกวินทร์ เพิ่งเสียไปเมื่อช่วงบ่าย เราอยากตอบแทนความทุ่มเทของกวินทร์ ด้วยการให้เขาได้ลงสนามเพื่อพ่อของเขา”
“เจนภพ โพธิ์ขี เป็นนักเตะที่ทุ่มเทและซ้อมอย่างหนักกับพวกเรา แต่ว่าเรายังไม่ได้คิดถึงการส่งนักเตะทุกคนลงสนาม เพราะหน้าที่ของเรายังไม่จบ เราต้องมีสมาธิ และเป้าหมายที่ชัดเจน และเราต้องทำผลงานให้ดีที่สุดในเกมที่สองตามเป้าหมาย เราต้องโฟกัสที่เกม เพื่อไม่ให้อินโดนีเซีย มีโอกาสกลับมาได้ เพราะฟุตบอลทั่วโลก ในสโมสรก็กลับมาได้ หลังตามหลังหลายประตู เราจะไม่ประมาท เราจะเล่นอย่างเต็มที่ด้วยสมาธิในเกมที่สอง”
สำหรับเกมนัดที่สองของรอบชิงชนะเลิศ ศึกชิงแชมป์อาเซียน 2020 ทีมชาติไทย จะพบกับ อินโดนีเซีย ที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ ในวันที่ 1 มกราคม 2565 เวลา 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสด ทางช่อง 7 HD และ AIS Play