มาทำความรู้จัก ราฟาเอล บาสโตส ดาวยิงขวาสั่งตาย แห่งค่ายปราสาทสายฟ้า
เวลานี้เราเชื่อเหลือเกินว่าคงจะไม่มีใครที่ติดตามฟุตบอลลีกไทย จะไม่รู้จักกับ ราฟาเอล บาสโตส พ่อค้าแข้งจากแดนแซมบ้า ประเทศบราซิล ที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้คว้ามาเสริมทัพในเลกที่ 2 เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งในแดนหน้า ในการไล่ล่าตาข่าย และไล่ล่าทุกแชมป์บนแผ่นดินขวานทอง
ราฟาเอล บาสโตส เป็นอดีตนักเตะเจ้าของค่าตัว 2,980,000 ปอนด์ หรือราว 131,120,000 บาท เมื่อปี 2013 จากการย้ายทีมจาก ซีเอฟอาร์ คลูจ์ ทีมดังจากโรมาเนีย ไปร่วมทัพ อัล นาเซอร์ (ริยาด) ทีมดังแห่งซาอุดีอาระเบีย นอกจากนี้เคยลงสนามฟาดแข้งกับทีมดังของโลกอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาแล้วในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และเป็นคนที่แอสซิสให้เพื่อนร่วมทีมยิงยัดเยียดความปราชัยให้กับทัพ “ปีศาจแดง” อีกด้วย
ฉบับนี้เรามาทำความรู้จักกับ ราฟาเอล บาสโตส ดาวยิงขวาสั่งตาย แห่งค่ายปราสาทสายฟ้า กันให้มากขึ้นว่าเขานั้นปรับตัวกับทีมได้มากน้อยขนาดไหน และวางเป้าไว้อย่างไรกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
Q : ช่วยแนะนำตัวเองหน่อยว่ามาจากไหน เล่นตำแหน่งอะไร ?
A : ผมชื่อ ราฟาเอล บาสโตส ผมมาจากเมืองริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล ผมเล่นได้ทั้งกองกลาง และกองหน้าครับ
Q : มาอยู่ที่นี่มีการปรับตัวอย่างไรบ้าง มีเพื่อนในทีมบุรีรัมย์ช่วยแนะนำเป็นพิเศษไหม ?
A : ผมอยู่มา 3 เดือนแล้วครับ การมาอยู่ที่นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะปรับตัว แต่ผมมี ดิโอโก หลุยส์ ซานโต นักเตะชาวบราซิล เพื่อนร่วมชาติเป็นคนช่วยให้ปรับตัวกับการอยู่ที่นี่ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่ง ดิโอโก ก็แนะนำผมทุกอย่างทั้งเรื่องสไตล์การเล่นฟุตบอลของคนไทย และการใช้ชีวิตนอกสนาม
Q : ก่อนที่จะเข้ามาร่วมทีมรู้จัก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาก่อนไหม พอได้มาร่วมทีมแล้วรู้สึกอย่างไง ?
A : แน่นอนก่อนผมมาที่นี่ผมเคยได้ยินเรื่องราวของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาบ้างแล้ว เพราะผมเคยเล่นอยู่ในลีกเอเชียมาก่อนกับ ฮอกไกโด คอนซาโดล ซัปโปโร ทีมในญี่ปุ่น, อัล นาเซอร์ (ริยาด) จากประเทศซาอุดีอาระเบีย และฮัทต้า คลับ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งตอนแรกผมไม่คิดว่าทีมจะแข็งแกร่งมากขนาดนี้ พอได้เข้ามาร่วมทีมผมก็รู้สึกได้ว่าที่นี่เป็นที่่ๆ ดีมาก ทุกอย่างเป็นมืออาชีพ และคนที่นี่น่ารักมาก
Q : เริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุเท่าไร ช่วยเล่าถึงเส้นทางการเป็นพ่อค้าแข้งให้ฟังหน่อย ?
A : ผมเริ่มเล่นฟุตบอลตอนอายุ 13 ปี และเล่นอยู่ในประเทศบราซิล จนถึงอายุ 20 ปีครับ จากนั้นผมก็ย้ายไปเล่นในลีกโปรตุเกส กับทีมบาราเนส และบราก้า และก็ไปเล่นกับ ซีเอฟอาร์ คลูจ์ ทีมจากโรมาเนีย ที่ี่นี่ผมได้มีโอกาสลงเล่นศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกด้วย ซึ่งก็มีเกมประทับใจคือช่วยให้ทีมเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ 1-0 ผมเป็นคนแอสซิสให้เพื่อนร่วมทีมยิง จากนั้นก็ย้ายไปหลายสโมสรก่อนที่จะได้มาอยู่ที่นี่ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด) จนถึงปัจจุบัน
Q : หลังย้ายออกจากทีมชาเปโคเอนเซ่ เพียงหนึ่งเดือนเศษ ได้เกิดเหตุการณ์โศกนาฏกรรมเครื่องบินตก ทำให้นักเตะ และสตาฟในทีมได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต ซึ่งเป็นวันที่เรากำลังจะมีแข่งขันพอดี ตอนนั้นรู้สึกอย่างไรบ้าง เพราะนั่นคือเพื่อนๆ ของคุณทั้งนั้น ?
A : ผมรู้สึกเศร้ามากครับ เพราะนั่นเหมือนกับการที่สูญเสียคนในครอบครัวของผมไป พวกเขาจะอยู่ในหัวใจของผมตลอดไป
Q : ทราบมาว่าเคยลงเล่นศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และเคยเอาชนะทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาแล้ว ตอนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง รู้สึกอย่างไรที่ได้เจอกับทีมใหญ่ระดับโลก ?
A : ผมมีความสุขมากครับที่ได้เล่นกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพราะเมื่อก่อนนั้นผมเล่นเจอพวกเขาแค่ในเครื่องเพลย์สเตชั่นเท่านั้น (หัวเราะ) ก็ดีนะครับ เรารู้ว่าเขาคือยอดทีมที่มีแฟนๆ เยอะมาก แต่พวกเราก็สู้อย่างเต็มที่จนได้รับชัยชนะที่น่าจดจำ ผมคงลืมเกมนั้นไม่ลงแน่นอน
Q : รู้สึกอย่างไรที่ได้รับคำชมจาก เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน โค้ชของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในขณะนั้น ?
A : ผมมีความสุขมากที่ได้รับคำชมจาก เซอร์อเล็ก เฟอร์กูสัน เขาคือยอดของกุนซือระดับโลก ที่ใครๆ หลายคนฝันอยากจะร่วมทีมด้วย นี่ก็คงเป็นอีกเหตุการณ์ที่ผมยังจดจำได้ดี
Q : จากการที่คุณได้เล่นมาหลายลีก คุณคิดว่าลีกต่างประเทศ กับไทยลีก แตกต่างกันอย่างไร ?
A : สำหรับผมแล้ว ฟุตบอลก็เหมือนกันทั่วโลกครับ ฟุตบอลสำหรับผมไม่มีอะไรแตกต่างกันเลยทั่วโลก เพียงแต่ว่าช่วงเวลานั้นๆ คุณจะสนุกกับฟุตบอลในรูปแบบไหนเท่านั้น ทุกครั้งที่ผมได้เล่นฟุตบอลมันก็เป็นเรื่องสนุก และท้าทายของผม
Q : นักเตะที่คุณชื่นชอบที่สุดคือใคร ?
A : โรนัลโด ศูนย์หน้าจากบราซิลครับ เขาคือไอดอลของเด็กบราซิลทั่วประเทศ ทุกคนอยากเก่งเหมือนเขา อยากประสบความสำเร็จเหมือนเขา คุณลองคิดดูนะว่าจะมีนักเตะคนไหนในโลก จะได้เล่นกับ 2 ยอดทีมของโลกอย่าง บาร์เซโลน่า และเรอัล มาดริด ยังไม่รวมถึงการติดทีมชาติบราซิล 98 นัด ยิงไป 62 ประตูอีก มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
Q : คุณคิดว่าจะพาทีมให้ประสบความสำเร็จได้มากน้อยแค่ไหน ?
A : ผมจะช่วยทีมให้ประสบความสำเร็จมากที่สุด และจะพาทีมเป็นแชมป์ให้ได้ครับ ผมเต็มที่ทุกครั้งที่มีโอกาสได้ลงสนามเวลาอยู่นอกสนามผมก็ซ้อมอย่างเต็มที่ เราทำงานกันหนักมากพอสมควร
Q : คุณรู้สึกอย่างไรที่ตอนนี้คุณกลายเป็นกำลังหลัก และความหวังของทีมอีกคน ?
A : ก็รู้สึกดีครับ ที่มีส่วนสำคัญกับทีม และหวังว่าผลงานของผม จะช่วยทีมคว้าแชมป์ และเป็นที่พอใจของเหล่ากองเชียร์ครับ
Q : อยากฝากอะไรถึงแฟน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บ้าง ?
A : เราจะสู้ไปด้วยกัน ทั้งนักเตะ และกองเชียร์ เราจะเป็นแชมป์ไปด้วยกันครับ ผมเชื่อว่าสุดท้ายแล้วหากเราไม่ทิ้งกันเราก็จะได้มีความสุขร่วมกัน
ข้อมูล