ฟุตบอลโหดร้าย! “สะสม พบประเสริฐ” ผิดหวังฉลามเสมอเหมือนแพ้

สะสม พบประเสริฐ ผิดหวังที่ ชลบุรี เอฟซี ได้แค่เสมอในเกมล่าสุดและทำให้เขารู้สึกเหมือนกับแพ้ เกมนี้ไปเลย

สะสม พบประเสริฐ ผิดหวังที่ ชลบุรี เอฟซี ทำได้แค่เสมอในเกมล่าสุด เพราะมันทำให้เขารู้สึกเหมือนแพ้เลยทีเดียว

เกมดังกล่าว ชลบุรี เหนือกว่าทั้งประตู และตัวผู้เล่นแต่กลับมาโดน สุโขทัย เอฟซี ตีเสมอในช่วงทดเจ็บ

“เหมือนแพ้นะ แม้จะได้ 1 คะแนน เราคาดหวังว่าวันนี้เราจะได้เทิร์นนิ่ง พอยต์ ในการกลับไปอยู่ข้างบน ใกล้ข้างบน ก็เรามาพลาด เขาเล่น 5 นาทีสุดท้าย ฟุตบอลมันโหดร้ายก็ต้องขอโทษแฟนบอล ที่ไม่สามารถเก็บสามคะแนนได้” โค้ชเตี้ย กล่าว

“ก็พยายามจะเรียกความฟิต ทั้งดานิโล่ ก็เล่นได้ประมาณ 30 นาที เขาเจ็บไป 2 อาทิตย์ ก็เป็นปัญหาหลัก ส่วนกฤษดา ก็ล้า เราพยายามโรเตชั่น ไม่ได้ประมาท เราเคารพคู่ต่อสู้ ก็จะพยายามให้ตัวหลักกลับมาให้เร็วที่สุด ไม่ว่าทีมแพทย์ หรือโค้ชฟิตเนสก็ทำงานกันอย่างหนัก”

“ต้องบอกแล้วฟุตบอลมันจบแล้ว เราต้องมองข้างหน้า มันก็ต้องเดินต่อ ไม่มีอะไรนอกจาก หาเทิร์นนิ่งพอยต์ใหม่ให้ได้โดยเร็วที่สุด จริงๆ มันยากทุกเกม เจอใครก็ยากหมด เพราะฉะนั้น เราเป็นทีมขนาดกลาง ผลงานขึ้นมาขนาดนี้ก็อยากเห็นมันไปข้างหน้าอีก ซึ่งผมพยายามพัฒนาทีมให้ไปข้างหน้า ฟุตบอลไม่ได้มึสูตรสำเร็จ หรือมีสมการที่คิดง่ายๆ บางเรื่อง วันนี้เราพลาดเองด้วยก็เป็นเกมหนึ่งที่เรามีอัตราการเสียบอลเยอะมาก ตรงนี้ เป็นสัญญาณอันตราย ทำให้การขาดตัวหลัก วิธีการเล่น ลืมไปหมด จนกระทั่ง เรามีความผิดพลาดเยอะจนน่ากลัว ก็ต้องไปปรับปรุงกันต่อ”

“ยอมรับว่าเหตุการณ์นอกสนามก็ส่งผลบ้าง เราพยายามหาอะไรที่มาหล่อเลี้ยงคือชัยชนะจ จริงๆแล้วทุกคนก็พยายามในสถานการณ์แบบนี้ แต่สุดท้ายยังสลัดไม่ออก ก้ต้องบอกว่าเราต้องทำงานกันหนักต่อไป ถ้าอยากจะกลับไปใหม่ ถือโอกาสขอโทษแฟนบอลที่มาที่สนาม อันนี้เป็นปัจจัยที่เราต้องขอบคุณแฟนบอล ยังหนุนหลังพวกเรา เราพยายามกลับมาให้ได้”

“ชมพัฒน์ เขาเองก็มีทักษะอยู่แล้ว แต่ว่าแน่นอนอย่าไปโทษเด็ก กับการเสียประตู โทษผมดีกว่าที่ผมเตรียมรับมือจังหวะแบบนี้ ไม่ดีดีกว่า ผมมองว่าสถานการณ์ ถ้าเขาได้สัมผัสเกมอีก เขาก็สามารถยืดหยัดได้ในวงการนี้ ผมเชื่อแบบนั้น”

“มันจำเป็นต้องพร้อม มึงต้องเอาให้ได้ เพราะฉะนั้นทุกอย่างอยู่ที่ผมและเขา แม้กระทั่งฟารุส ไม่แน่ เขาอาจจะได้โอกาสเกมหน้า ก็ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ที่เหลือประตูสองคน มันต้องทดลอง มันไม่มีอะไรเสี่ยงกว่านี้แล้ว มีอย่างเดียวถ้าเขาเกิด ก็แบ่งเบาตำแหน่งนี้ได้ มันก็บอกแล้วว่าทุกอย่างมันเสี่ยงหมด มากหรือน้อย เป็นโค้ชก็เสี่ยง การให้โอกาสเด็ก ลืมตาอ้าปากก็เป็นเรื่องที่ดี”

“เรืองประตูใหม่ก็ต้องประเมินก่อน สองคนนี้รับไหวไหม ชนินทร์ กลับมาเลกสองแน่ๆ แต่ในระหว่างการเดินทางจากนครปฐมไปจนถึงเกมสุดท้ายกับท่าเรือ เราต้องอาศัยสองคนนี้ เขาไม่มีอะไรผิดพลาด ลูกเสียประตูมันแฉลบและมองไม่เห็น ก็เป็นเรื่องที่รับได้ การได้ 1 คะแนนมันเหมือนแพ้ แต่ไม่เกี่ยวกับเขา มันเกี่ยวกับทั้งทีมที่ปล่อยโอกาสแบบนี้มาเกิด”

“เราก็ต้องฟอลโลว์ผู้บริหาร เขากำลังขมวดวิธีการซึ่งก็เป็นเรื่องของสโมสร ผมตอบไมได้เวลานี้ สโมสรใหญ่ที่สุด คงต้องรัดเข็มขัดให้แน่น จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้ มันมีผลต่อภาพลักษณ์ จิตใจ ทุกอย่างมันอ่อนไหวหมด ก็ต้องบอกว่า เราต้องผ่านมันไปให้ได้ เพราะฉะนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว ต้องแก้ไข และเดินหน้าต่อ”