ข่าวฟุตบอล ไทยลีกฟาลเคสการ์ด ประทับใจกับมาตรฐานฟุตบอลไทย ชมสรรวัชญ์คือคีย์แมนของทีม
ไมเคิ่ล ฟาลเคสการ์ด
ฟาลเคสการ์ด
ไมเคิ่ล ฟาลเคสการ์ด

ไมเคิ่ล ฟาลเคสการ์ด ผู้รักษาประตูลูกครึ่งเดนมาร์ก-ฟิลิปปินส์เปิดใจผ่าน ฟ็อกซ์ สปอร์ต เอเชีย กับการมาค้าแข้งที่ประเทศไทยรวมถึงชื่นชม สรรวัชญ์ เดชมิตร ที่จะเป็นกำลังสำคัญของทีมในฤดูกาลนี้

โดยนายทวารวัย 26 ปี มีพ่อเป็นชาวเดนมาร์ก และแม่เป็นชาวฟิลิปปินส์ เริ่มหลงรักฟุตบอลจากพ่อและพี่ชาย ในวัย 5 ขวบ

พ่อของเขาชวนไปเล่นกับสโมสรท้องถิ่นที่ชื่อว่า คาสตรุป โบลด์คลุป ก่อนมีโอกาสตามรอยปีเตอร์ ชไมเคิ่ล ด้วยการย้ายมาร่วมบรอนด์บี้ในปี 2010

“ในยุคของผม ทุกคนอยากเป็นผู้รักษาประตู ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งในนั้น การเล่นฟุตบอลกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมตั้งแต่ยังเด็ก” 

“ผมกลายเป็นมือหนึ่งของโอเดนเซ่ในปี 2015 หลังย้ายมาจากบรอนด์บี้ เราเริ่มต้นได้ดีจนสามารถเป็นจ่าฝูงของลีกได้ แต่โชคร้ายที่เอ็นไขว้หน้าเข่าของผมฉีกขาดในเกมที่พบกับอาร์ฮุสจนเข้ารับการผ่าตัด

กลายเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของผมหลังจากโชว์ฟอร์มกับสโมสรได้ดี”

หลังจากที่โดนโอเดนเซ่ปล่อยตัว ฟาลเคสการ์ดจึงย้ายไปทีมคู่แข่งอย่างมิดทิลแลนด์ แต่ก็พบอุปสรรคอีกครั้ง จนกระทั่งแบงค็ิก ยูไนเต็ด ติดต่อมา

“ผมย้ายมาร่วมทีมมิดทิลแลนด์ เพราะทางสโมสรต้องการผมและมีแผนให้ผมลงเล่น แต่เขากลับขายผู้รักษาประตูอีกคนแล้วซื้อคนที่มีมีประสบการณ์มากกว่า จากนั้นแบงค็อกก็ติดต่อผมมา จึงได้ย้ายมาอยู่ที่นี่” 

ถึงแม้แบงค็อกสนใจที่จะดึงตัวลูกครึ่งรายนี้ แต่เขาก็รอโอกาสเพราะปัญหาเรื่องพาสปอร์ต เพราะตัวเขามีเป้าหมายที่จะติดทีมชาติฟิลิปปินส์ในอนาคต ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าเขาจะโชว์ฟอร์มกับแบงค็อก ยูไนเต็ดได้ดีแค่ไหน

“เมื่อผู้อำนวยการด้านกีฬาของแบงค็อกติดต่อผม ผมไม่มีพาสปอร์ตฟิลิปปินส์และพวกเขาต้องการผมในฐานะโควตาอาเซียน” ฟาลเคสการ์ด อธิบาย

“ผมจึงบินไปมะนิลาหลายๆครั้ง เพื่อยื่นเอกสารทำพาสปอร์ต ในที่สุดผมก็ได้เป็นคนฟิลิปปินส์จริงๆ” 

“แบงค็อกคือเป้าหมายหลักของผม ผมต้องปรับตัวทั้งในเรื่องสภาพอากาศและสไตล์การเล่น ยินดีที่ได้กลับมาลงอีกครั้ง หลังจากพักเบรกในหน้าหนาว”

“ผมมั่นใจว่าทีมชาติฟิลิปปินส์ไม่เรียกคนที่ฟอร์มไม่ดีติดทีมชาติ ผมจึงต้องโชว์ฟอร์มให้ดีที่สุด จะเป็นเกียรติอย่างยิ่งถ้าผมได้ติดทีมชาติ แล้วทำให้ครอบครัวที่ฟิลิปปินส์ของผมรู้สึกภาคภูมิใจในตัวผม”

หลังจากที่ลงซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมได้หลายเดือนแล้ว ฟาลเคสการ์ดประทับใจกับมาตรฐานฟุตบอลในประเทศไทย ซึ่งทำให้เขามั่นใจได้ว่า เขาได้ร่วมทีมที่สุดยอดในอาเซียนอีกทีมหนึ่ง

“ผู้เล่นไทยมีทักษะที่ยอดเยี่ยมมาก โดยเฉพาะสรรวัชญ์ เดชมิตร เขาเป็นคนที่มีเทคนิคและวิสัยทัศน์ที่ยอดเยี่ยม” ฟาลเคสการ์ด กล่าวเพิ่มเติม

“จากนั้นก็มี 3 ผู้เล่นบราซิลอย่างวานเดอร์ หลุยซ์, ร็อบสัน และเอเวอร์ตัน อีกทั้งยังมีผู้เล่นอาร์เจนติน่าอย่างคาร์ลอส ซาลอม ซึ่งเป็นผู้เล่นที่มีประวัติยอดเยี่ยมมาร่วมทีมอีกด้วย”

“ผมเห็นแบงค็อกเล่นได้ยอดเยี่ยมภายใต้การนำของมาโน่ โพลกิ้ง เขาเป็นคนที่ดึงศักยภาพของผู้เล่นและสร้างปรัชญาฟุตบอลในสไตล์ของตนเอง”

แบงค็อก ยูไนเต็ด มีเป้าหมายจะจบได้ดีกว่าอันดับที่ 3 ของตารางที่ทำได้เมื่อฤดูกาลที่แล้ว โดยจะประเดิมสนามด้วยการพบกับเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ดที่ทรู สเตเดี้ยม

ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ต่อด้วยการออกไปเยือนโปลิศ เทโรที่สนามบุณยะจินดาในสัปดาห์ต่อมา