หลังแยกย้ายกับ ทีโอที เอสซี พลวัฒน์ วังฆะฮาด หรือ “เอส” ก็ตัดสินใจย้ายซบ สุพรรณบุรี เอฟซี ตั้งแต่ยังโลดแล่นอยู่ในลีกพระรอง และถูกปล่อยยืมตัวหลายครั้ง รวมถึงครั้งหนึ่งที่เคยได้ร่วมทีม เมืองทอง ยูไนเต็ด แต่โชคร้ายที่ได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก
“ตอนนั้นผมย้ายไปเล่นกับ เมืองทอง แบบยืมตัว ก็ได้ลงเล่นอยู่นะครับ แต่เกิดเจ็บเข่าจนต้องพักไปปีนึงเต็มๆ” พลวัฒน์ กล่าวเริ่ม
“พอหายเจ็บกลับมา ก็ได้ลงเล่นให้กับ สุพรรณบุรี ในปี 2014 ทุกอย่างมันเหมือนเข้าที่เข้าทางไปหมด และเป็นปีแรกเลยที่ผมได้ลงสนามอยู่บ่อยๆ ต่อมาปี 2015 ผมยังได้ลงเยอะอยู่ ผลงานกำลังดีเลย ทั้งตัวผมและสโมสร แต่มาโชคร้ายที่ปลายปีผมได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง”
อาการบาดเจ็บครั้งนั้น “เอส” ใช้เวลาพักรักษาตัวแค่ 1-2 เดือนเท่านั้น แต่ปรากฏว่ากลับไม่มีที่ว่างให้เขาในทัพ “ช้างศึกยุทธหัตถี” ตอนหายเจ็บกลับมา
“พอผมหายเจ็บกลับมา ทาง สุพรรณบุรี ก็ปล่อยผมให้ นครราชสีมา ยืมตัวไปเมื่อปีที่แล้ว เพราะเขามองว่าถ้าเราไปเล่นที่นั่น จะได้ลงสนามมากว่า และเพื่อเป็นการเรียกความฟิตให้สภาพร่างกายเรากลับมาสมบูรณ์อีกครั้งด้วย”
“ชีวิตที่โคราชก็ถือว่าดีเลยครับ ได้เจอสภาพแวดล้อมใหม่ๆ เพื่อนร่วมทีมใหม่ๆ แล้วได้ลงเล่นบ่อยด้วย ความมั่นใจเราก็เลยกลับมาอีกครั้ง”
แม้จะอยู่ลีกเดียวกัน แต่ “เอส” ยอมรับว่าระหว่าง สุพรรณบุรี กับ นครราชสีมา นั้น มีความแตกต่างกันอยู่ในหลายด้านๆ
“ต้องบอกก่อนว่า โคราช เป็นทีมที่เล็กกว่า สุพรรณบุรี แน่นอนว่ามันมีความแตกต่าง องค์ประกอบหลายๆอย่างมันก็จะดีไม่เท่ากัน แต่สำหรับผมคิดว่า การเล่นให้กับทีมที่เล็กกว่าจะมีความกดดันน้อยกว่า เล่นไปแบบสบายๆ ไร้ความกดดัน ไม่เหมือนกับทีมใหญ่ ที่เราต้องทำผลงานให้ดีอยู่เสมอ”
“เอส” หมดสัญญายืมตัวพร้อมย้ายกลับมาอยู่กับ “ช้างศึกยุทธหัตถี” อีกครั้งเมื่อต้นปี 2017 โดยพาอดีตแข้ง “สวาทแคท” อย่าง ประธาน แม้นศิริ กลับมาด้วย ทว่าปีนี้ เขาเพิ่งได้รับโอกาสลงสนามแค่สองนัดเท่านั้น
“ทั้งฤดูกาลนี้ผมลงทั้งในลีกกับบอลถ้วยไปอย่างละแมตช์ พูดถึงวัยผมตอนนี้ก็ 30 ปีแล้ว ก็อาจจะไม่เป็นผลดีเท่าไหร่ที่ไม่ได้ลงสนามมากนัก แต่ถึงแม้ไม่ได้รับโอกาสผมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ตั้งหน้าตั้งหน้าซ้อม ทำหน้าที่ของตัวเองต่อไปให้ดีที่สุด”
“3 นัดสุดท้ายผมก็ยังหวังนะครับ แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร หวังว่าสักวันโอกาสจะเป็นของเราบ้าง แล้วค่อยสู้กันใหม่ปีหน้าครับผม” พลวัฒน์ ปิดท้าย
ข้อมูล Suphanburi FC