ล่าสุด วันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 11.00 น. ที่ห้องมรกต ชั้น 3 โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ ฟุตบอลชายทีมชาติไทยชุดใหญ่เดินทางมารายงานตัวเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเดินทางไปเก็บตัว ที่กิเลน วัลเลย์ จังหวัด นครราชสีมา ระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม – 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 สำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 3 กลุ่มบี นัดที่ 5 กับทีมชาติออสเตรเลีย และ การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน (AFF Championship 2016)
ส่วนการรายงานตัวในครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก พล.ต.ท. พิสัณห์ จุลดิลก เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย, นาย พาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศและโฆษกสมาคมฯ พร้อมด้วยทีมผู้ฝึกสอน นำโดย เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอน พร้อมด้วยนักเตะทั้ง 28 คน เดินทางมารายงานตัวกันพร้อมหน้า ประกอบไปด้วย ธีราทร บุญมาทัน (กัปตันทีม), ธีรศิลป์ แดงดา รวมถึง นักเตะหน้าใหม่อย่าง ศิวะพงษ์ เจริญศิลป์ และ นัสตพล มาลาพันธ์ ขาดเพียงแค่ นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม และ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่จะตามมาสมทบในภายหลัง
และ พล.ต.ท. พิสัณห์ จุลดิลก เลขาธิการสมาคมฯ กล่าวว่า “เนื่องจากการแข่งขันในลีกยุติไป ก็เลยอยากให้พวกเรามีเวลารวมตัวกันนานขึ้น เพราะเกมที่จะเจอกับออสเตรเลีย เราต้องทำการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียนต่อ จึงได้ตัดสินใจรวมตัวกันนานขึ้น เพื่อเตรียมทีมให้ดีที่สุด แม้เราจะไม่มีคะแนนจากสี่นัดแรก แต่แฟนบอลยังให้กำลังใจกันอยู่ เพราะรู้ว่าทุกคนสู้เต็มที่ ขอให้ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมและสู้เต็มที่ต่อไป เรายังไม่ยอมแพ้ วันนี้หลังจากรายงานตัวเสร็จก็ขอความร่วมมือให้ทุกคนเดินทางไปสนามหลวง เพื่อถวายความอาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระบรมมหาราชวัง”
ส่วน เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย กล่าวในงานรายงานตัวว่า “ขอกล่าวต้อนรับนักฟุตบอลทีมชาติไทยชุดบอลโลกรอบคัดเลือก และ ซูซูกิ คัพ อยากให้พวกเราตั้งใจ สิ่งที่พวกเราทำมาโดยตลอดประชาชนเองก็ยังรักและศรัทธาในทีมพวกเรา ก็อาจจะมีบางส่วนที่ยังอยากเห็นพวกเราได้คะแนน และประสบความสำเร็จ เราก็เข้าใจว่าทุกคนอยากได้ชัยชนะ ฉะนั้นผมต้องการให้พวกเรารวมเป็นหนึ่งเดียว”
“วันนี้ที่เรียกมาเข้าแคมป์เร็วกว่าปกติ ด้วยสาเหตุก็คือ เราเสร็จสิ้นภารกิจจากสโมสร และขอแสดงความยินดีกับเมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ได้แชมป์ และอีกหลายทีมที่ประสบความสำเร็จในลีก แต่ภารกิจของพวกเรายังไม่เสร็จสิ้น ก่อนหน้านี้เราเล่นฟุตบอลเพื่อประเทศชาติ เพื่อในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อประชาชนชาวไทย หลายๆคนก็สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ท่านทรงงานหนักมาตลอด หลายคนบอกว่าอยากติดทีมชุดนี้มาก ภารกิจของเรายังไม่จบเรายังเหลืออีก 6 เกม เราเห็นแววตาของทุกคน ทุกคนต้องทำให้ผมเห็น เราต้องแข่งขันกัน ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก และ ซูซูกิ คัพ ก็จะมีทั้งหมด 23 คน คนที่มาใหม่ก็ถือว่าเป็นเกียรติ”
“การมีธงไตรรงค์อยู่ที่หน้าอกถือเป็นความภูมิใจ แม้เราจะยังไม่ประสบความสำเร็จ และก็ถือเป็นความสำเร็จในหน้าที่การเป็นนักฟุตบอล เรามีเวลา 19 วัน วันที่เรากลับมาจากอิหร่าน ไม่ได้เล่นสโมสร บางคนดูแลร่างกาย หลายคนก็ได้ไปเที่ยว เพราะต้องการให้ทุกคนลืมเรื่องฟุตบอลไปสักพัก เพื่อที่จะได้ไม่เครียด ซึ่งเราก็ได้พักมา 15 วันเต็ม กับอีก 19 วันที่เหลือ เราต้องทำอะไรบ้าง สัปดาห์แรก เราก็จะทำเรื่องสมรรถภาพร่างกาย ฟื้นฟูร่างกาย สภาพร่างกายของเราตอนนี้ 60 เปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่ 0 เพราะเราได้เล่นมาต่อเนื่อง แต่ที่ผ่านมาเราพักไปไม่อยากให้ทุกคนเครียด เราอยากให้ทุกคนเน้นเรื่องเวท เทรนนิ่ง ทำยังไงให้ฟิตถึงระดับ 80-90 เปอร์เซ็นต์ บางคนอาจจะมีพลังมากน้อยต่างกันไป แต่เราจะไม่โหม เพราะมันอาจจะทำให้ล้าและไม่สบายได้ และกว่าจะหายก็ต้องใช้เวลานานกว่า 5 วัน สัปดาห์ที่สองเราต้องเน้นเรื่องแท็คติก”
“เราทำงานร่วมกัน เราต้องให้ความสำคัญ ถ้าเบาไปต้องเพิ่ม ถ้าหนักไปก็ต้องลด เราจะมาเน้นแท็คติกที่จะเจอกับออสเตรเลีย จุดแข็ง จุดอ่อนเป็นอย่างไร และจะได้ศึกษาว่าแต่ละเกมเขาเล่นอย่างไร ที่ผ่านมาเราทำการบ้านได้ดีแล้ว แต่ยังไม่เห็นผลเรื่องแต้ม แต่จากการประเมินผล ถือว่าน่าพอใจ ว่าเราสามารถต่อกรกับระดับเอเชียได้ในระดับหนึ่ง แต่เรื่องความฟิตกับสมรรถภาพทางร่างกายเรายังเป็นรอง”
“ในช่วงวันท้ายๆ เราจะเน้นเรื่องลูกตั้งเตะ ต้องทำความเข้าใจ และลดความหนักหน่วงลงมาเพื่อผ่อนคลายเพื่อไม่ให้เกิดอาการล้า และวันที่ 13 พฤศจิกายน เราจะกลับมากรุงเทพเพื่อเตรียมซ้อมอย่างเป็นทางการ ก่อนจะทำการแข่งขันในวันที่ 15 พฤศจิกายน และจะมีการเช็คสภาพร่างกาย ก่อนจะประกาศรายชื่อชุดซูซูกิ คัพ ในวันนั้น ซึ่งเราอาจจะเดินทางไปฟิลิปปินส์ ในวันที่ 16-17 พฤศจิกายน ซึ่งหากไม่มีอาการล้า เราอาจจะเดินทางไปในช่วงเย็นวันที่ 16 พฤศจิกายนทันที ซึ่งเราต้องลงซ้อมอย่างเป็นทางการวันที่ 18 พฤศจิกายน เพื่อเตรียมเจอกับ อินโดนีเซีย และต่อด้วย สิงค์โปร์ กับ ฟิลิปปินส์ และเรามาดูกันว่าเราจะเข้ารอบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม หรือรองแชมป์กลุ่ม ขอให้ทุกคนไม่ต้องเกรง ทำเต็มที่ เพราะนี่คือนักเตะทุกคนที่เราต้องการใช้งานในปีนี้ ไม่มีคำว่าลูกรัก ไม่มีคำว่าซี้ ทุกคนอยู่กับผมมา ทุกคนคือน้องรัก”
“ที่ผมเรียกทุกคนมา ผมคิดว่าพวกคุณคือนักเตะที่ดีที่สุดในประเทศ เมื่อมีโอกาสแล้วต้องโชว์ให้เห็นในการฝึกซ้อม รู้ว่าทุกคนรักกันมาก ผมรู้เพราะทำงานมาด้วยกันตลอด 3-4 ปี ใครจะไปก็ได้ วันนี้ผมอยากให้เราคงความเป็นเพื่อนพี่น้องกัน แต่ถึงวันตัดตัวขอให้ยอมรับในการตัดสินใจ เพราะผมคิดว่าทุกคนคือน้อง และพยายามให้โอกาสกับทุกคน ทุกคนก็คงรู้ว่าในยุคนี้ เราไม่มี 11 ตัวแรกในใจตลอดเวลา แต่สมัยที่ผมเป็นนักเตะเรามี 11 ตัวจริงหน้าเดิมตลอดเวลา แต่ตลอด 3-4 ปี เรามีตัวเลือก 50 กว่าคน คนไหนที่เป็นพี่ประคองน้อง น้องก็ต้องเชื่อฟังพี่ แต่ลงสนามสิทธิเท่าเทียมกัน ความเก่งกาจในสนามไม่มีแบ่งอายุ ขอให้ทุกคนยึดปฏิบัติว่าจะใช้เวลา 19 วันอย่างไร”
“เชื่อว่าเทคนิค แท็คติกทุกคนครบแล้ว เหลือเพียงแค่สมรรถภาพร่างกาย พวกเราเล่นมาแล้วสี่เกม ไม่มีตะคริว ไม่เล่นหยาบคายหรือนอกเกม มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ้าง แต่เราก็มีใบแดงมาถึง 3 ใบ ก็หวังว่าจะไม่มีใบแดงที่สี่ คนไหนที่ได้ใบแดงไปแล้ว ด้วยอะไรก็แล้วแต่ เพื่อนๆรู้ว่าพวกเราทุ่มเท แต่วันนี้เกมระดับเอเชีย เราต้องละเอียดขึ้น ประสบการณ์สี่เกมเรารู้ว่าต้องตอบโต้ หรือเล่นยังไง เราจะไม่ยอมเสียเปรียบเรื่องกลยุทธ์ เวลาเปลี่ยนเกม เราต้องได้ศักยภาพที่เราต้องการเห็น บางเกมเราไม่สามารถทำตามที่เราหวังได้เพราะเสียประตูเร็ว ผมเชื่อว่าทุกคนรู้หมดแล้ว หลังจากนี้ทุกคนจะต้องช่วยเหลือกัน จะไม่มีการลงสนามเพื่อดูเพื่อน วันนี้ทุกคนต้องพร้อม 90 นาทีต้องเป็นของเราบ้าง เราไม่ได้เล่นเกมของเราเลย เราอยากให้มันเข้าทางเราบ้าง”
“หลังจากวันนี้เราทานข้าวเที่ยงเสร็จ เราจะเดินทางประมาณ บ่ายโมงครึ่งเพื่อไปพระบรมมหาราชวัง อันนี้ก็เชื่อว่าทุกคนสมัครใจที่จะไป หลายคนอย่างเดินทางไป พวกเราเองรู้ว่าพระองค์ท่านรักพวกเรามาก ทอดพระเนตรและส่งกำลังใจไปให้พวกเรา นี่คือที่สุดของชีวิต การเดินทางไปสนามหลวงขอให้ทุกคนสำรวม และมีสื่อมวลชนมากมายซึ่งอาจจะมีการขอถ่ายรูป ซึ่งก็มีกระแสภาพที่ไม่ดี ผมอยากให้ทีมฟุตบอลทุกคน ขอร้องให้แฟนบอล หรือการแสดงกิริยาให้สำรวม ไม่มีการยืนถ่ายรูป เราไม่ได้ไปโชว์ตัว แต่เราไปถวายความอาลัย ไปร่วมงานพระราชพิธี หลังจากนั้นเราก็จะทำกิจกรรม แจกพัดลม ขนมให้กับประชาชนที่มาร่วมพิธี อยากให้ทุกคนใช้อารมณ์ ความรู้สึก สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ทำความดีถวายพ่อ ผู้คนอาจจะไม่เยอะมากเหมือนหลายวันทีผ่านมา ครั้งนี้คิดว่าหลังจากเสร็จตรงนั้น เราจะพยายามจัดเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย เราเห็นบรรยากาศ เราจะจัดให้เป็นระเบียบที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย ถือเป็นการให้กำลังใจซึ่งกันและกัน”
“หลังจากนั้นเราจะเดินทางกลับมารับประทานอาหารเย็น ขอให้ทุกคนทำจิตใจก่อนที่จะเข้าแคมป์ เราจะออกเดินทางไปนครราชสีมาสัก 09.00 น. และมีสมาธิกับการฝึกซ้อม ซึ่งอากาศจะเริ่มหนาวเย็นแล้ว ใครที่ยังเตรียมเสื้อผ้าไม่พร้อมก็สามารถแจ้งได้ ซึงการซ้อมจะมีทั้งสีขาวและสีดำ คิดว่าน่าจะพร้อม โปรแกรมทั้งหมดทั้งมวล คนที่มาใหม่ก็คอยได้รับคำแนะนำ ทั้งจาก ธีราทร, สินทวีชัย, ธีรศิลป์ หรืออดุล อยากได้อะไรก็แจ้งสต๊าฟฟ์โค้ชหรือตัวผม”
“ตอนเราไปต่างประเทศ เรามีทีมงานผู้จัดการทีม ทุกคนช่วยให้เกิดการสบายตัวที่สุด แต่ในประเทศไทยเราก็ต้องทำให้ดี เพื่อความได้เปรียบในการเป็นเจ้าภาพ ไม่ใช่ดูแลกันอย่างดีแค่ต่างประเทศ ขอให้ทุกคนมีความสุขในแคมป์ทีมชาติ นั่งปรึกษากัน ผมอยากให้ทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข เจออสเตรเลียได้แต้มหรือไม่ได้แต้มเราไม่รู้ แต่ทุกคนมาด้วยใจ ทุกคนอยากเล่นเพื่อพระองค์ท่าน ด้วยสถานการณ์แบบนี้ก็อยากให้เราใช้เวลา 19 วันให้คุ้มค่าที่สุด ที่อยากบอกอีกเรื่องก็คือ ผู้จัดการทีม (ขจร เจียรวนนท์) ได้ลาออกไปด้วยภารกิจหรืออะไรก็แล้วแต่ ก็ขอบคุณท่านที่ดูแลเรามาตลอด นั่นเป็นวิถีของฟุตบอล สมาคมฯเองก็จะพยายามหาพี่ๆที่รักในกีฬาฟุตบอลมาช่วยกัน ก็ไม่ว่ากัน”
“ก็ไม่ต้องห่วงว่าสมาคมฯ กำลังหาคนที่เหมาะสม ซึ่งไม่นิ่งนอนใจ อยากให้ทุกคนมั่นใจว่าทีมเดินต่อไปได้ ก็ขึ้นอยู่ที่ความเข้มแข็งของร่างกายและจิตใจ ใครที่บาดเจ็บเรามีหมอ นักกายภาพ ไม่ต้องกลัวว่าจะหลุดหรือไม่ติด ไม่ติดคราวนี้ก็มีครั้งหน้า ฉะนั้นอย่าเก็บไว้ เพราะเราทำเพื่อประเทศชาติ อย่าเสียดาย เมื่อไหร่ที่คุณเข้ามา มันเหมือนร่องน้ำ ก็จะมีเข้าบ้างออกบ้าง ดีกว่าออกไปนานๆ เพื่อรักษาให้ดี เรามีหมอหลายคนที่สามารถไปช่วยถึงสโมสร อาชีพนักฟุตบอลอย่าฝืน ต้องผ่า เข่าต้องเสียอนาคต เราไม่อยากให้ใครเจ็บแล้วลงไป เพราะมันเสียตัวเองและประเทศชาติ รวมถึงสิ่งที่เราทำงาน เราต้องเปิดใจกัน อย่าตอบว่าได้อย่างเดียวมันอาจจะเสียหาย เราอยากให้เปิดให้ทุกคนได้ลอง”
“กฏเหล็กของเราคือห้ามดื่มสุรา ดูดบุหรี่ หรือหนีเที่ยว และห้ามเล่นการพนัน คนที่เข้ามาใหม่ก็ต้องรับทราบ คนเก่าโทษหนักกว่าเดิม ถ้าสต๊าฟฟ์เห็น ก็เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋ากลับสโมสรทันที ไม่ต้องมาคุยกัน เรายังเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม แต่ต้องแยกทางกัน อย่าหาว่าผมใจร้าย เพราะทีมสำคัญที่สุดทุกชุดที่ผมทำ”
ฟุตบอลชายทีมชาติไทยชุดใหญ่ จะทำการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 3 กลุ่มบี นัดที่ 5 พบกับ ทีมชาติออสเตรเลีย ที่สนาม ราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 เวลา 19.00 น. ก่อนจะออกเดินทางไปประเทศฟิลิปปินส์ เพื่อทำการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน โดยอยู่ในกลุ่มเอ ร่วมกับ ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์ และ อินโดนีเซีย
ข้อมูลทั้งหมดจาก : https://fathailand.org/archives/11790
