“ปืนใหญ่” อาร์เซนอล หยุดสถิติแพ้ 3 เกมรวดในศึกพรีเมียร์ลีกได้แล้ว หลังบุกไปเก็บชัยในศึกแห่งศักดิ์ศรี “ลอนดอนดาร์บี้แมทช์” จากการบุกไปชนะ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี 4-2 เมื่อคืนวันที่ 20 เม.ย.
เกมนี้ มิเกล อาร์เตต้า กุนซือ อาร์เซนอล ปรับแผนการเล่นจาก 4-2-3-1 เป็น 3-4-2-1 โดยแนวรุกให้ เอมิล สมิธ โรว์ ลงไปยืนปั้นเกมร่วมกับ มาร์ติน โอเดการ์ด และวาง เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ สวมบทเป็นกองหน้าตัวเป้า
ด้านเจ้าบ้านของกุนซือ โธมัส ทูเคิ่ล ปรับทัพบางตำแหน่ง โดยเฉพาะแนวรุกให้ โรเมลู ลูกากู กับ ติโม แวร์เนอร์ ลงไปยืนเป็นกองหน้าคู่กันไปเลย
ในช่วงครึ่งแรก อาร์เซนอล ขึ้นนำไปก่อนจาก เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ในนาที 13 หลังจากนั้นเจ้าบ้านตีเจ๊าได้จาก ติโม แวร์เนอร์ ในนาที 17 และเป็นฝั่งทีมเยือนออกนำอีกครั้งจาก เอมิล สมิธ โรว์ ในนาที 27 แต่เจ้าถิ่นตามตีเจ๊าได้จาก เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ในนาที 32 จบ 45 นาทีแรก เสมอ 2-2 เข้าสู่ครึ่งหลัง “ปืนใหญ่” ยิงเพิ่มได้อีก 2 ประตูจาก เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ในนาที 57 และ บูกาโย่ ซาก้า จุดโทษในช่วงทดเจ็บไปแล้ว 2 นาที
หมดเวลาการแข่งขัน อาร์เซนอล เป็นฝ่ายชนะ 4-2 แม้จะยังอยู่อันดับ 5 แข่ง 32 นัด มี 57 แต้ม เท่ากับ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ ทีมอันดับ 4 ในพื้นที่ท็อปโฟร์ แต่มีผลต่างประตูได้เสียน้อยกว่า 8 ลูก ส่วน เชลซี ยังอยู่อันดับ 3 แข่ง 31 นัด มี 62 คะแนน