บิ๊กอ๊อด นายกสมาคมฯ มอบที่ดิน ที่จังหวัดนครราชสีมา 49 ไร่ ให้กับทางสมาคมฯ สร้างศูนย์ฝึกฟุตบอล “เขาใหญ่แคมปัส”
ตามที่ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปภัมถ์ ได้วางโรดแมปการพัฒนากีฬาฟุตบอลในระยะสั้นและระยะยาว โดยเฉพาะในปี 2017 ที่วางแผนเรื่องการสร้างศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ นั้น
ล่าสุด พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ ได้มอบที่ดินส่วนตัว จำนวน 49 ไร่ ให้กับทางสมาคมฯ เพื่อนำไปใช้ในการสร้างศูนย์ฝึกฟุตบอลของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ “เขาใหญ่ แคมปัส” ที่อำเภอ ปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา โดยจะนำเงินจำนวน 27 ล้านบาท ต่อปี ที่ได้รับจากโครงการ FIFA Forward Project Based มาสร้างศูนย์ฝึกดังกล่าว
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ทางสมาคมฯ ได้มีการลงนามความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยกรุงเทพ-ธนบุรี ก่อสร้างศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติที่คืบหน้าไปแล้วกว่า 75 เปอร์เซ็นต์ โดยมีสนามหญ้าเทียม 1 สนาม และ สนามหญ้าจริง 2 สนาม
โดยแผนการสร้างศูนย์ฝึกฟุตบอลที่จังหวัดนครราชสีมา ได้มีการเริ่มต้นศึกษาในเรื่องของสิ่งอำนวยสะดวกและสาธารณูปโภคต่างๆ ซึ่งคาดว่าจะประกอบไปด้วย
1.สนามหญ้าเทียมมาตรฐานแข่งขัน
2.สนามฝึกซ้อมกลางแจ้ง
3.สนามฝึกซ้อมกลางแจ้งแบบปิด
4.อาคารหอพักนักกีฬาชาย
5.ศูนย์ฟิตเนส และกายภาพ
6.อาคารหอพักนักกีฬาหญิง
7.สนามฝึกสมรรถภาพนักกีฬา
8.โรงยิมเนเซียมฟุตซอล
9.สนามฟุตบอลชายหาด
10.สระว่ายน้ำ
11.ลานกิจรรม
12.บ่อเก็บน้ำธรรมชาติ
13.อาคารอเนกประสงค์
14. พื้นที่ Business Zone และ ลานจอดรถ
โดยคุณ พาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศ และ โฆษกสมาคมฯ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “อย่างที่ทราบว่าก่อนหน้านี้ ทางสมาคมฯได้มีศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติที่สมาคมฯเป็นเจ้าของเพียงสนามเดียวคือ ศูนย์ฝึกฟุตบอลหนองจอก และเมื่อเราเก็บตัวหลายทีมพร้อมกัน ก็ไม่เพียงพอต่อความจำเป็น”
“และหลังจากที่ได้ศึกษารูปแบบของสมาคมฟุตบอลฯ ในประเทศต่างๆ ทั้งเวียดนาม รวมถึงเมียนมา ก็ได้มีศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติที่ทันสมัยและมากกว่า 1 แห่ง ก่อนหน้านี้ทางสมาคมฯ เองก็ได้ไปดูพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีและชลบุรี ซึ่งที่ดินเหล่านี้อยู่ในความควบคุมของราชพัสดุ ซึ่งก็มีระเบียบขั้นตอนและระยะเวลา รวมถึงพิจารณาความสำคัญในการใช้พื้นที่ หากว่ามีหลายหน่วยงานที่แสดงความจำนงที่จะใช้พื้นที่เดียวกัน”
“สำหรับ เขาใหญ่แคมปัส ที่เราวางแผนจะสร้างนั้นนอกจากจะใช้เป็นที่เก็บตัวของทีมชาติแล้ว เราวางแผนว่าสถานที่ดังกล่าวจะสามารถให้ทีมชาติเก็บตัวได้อย่างน้อยพร้อมกัน 3 ชุด นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นสถานที่สำหรับการอบรมผู้ฝึกสอน ในคอร์สต่างๆ พื้นที่ในบริเวณนั้นถือว่าอุดมสมบูรณ์ เพราะใกล้แหล่งน้ำ และสามารถทำให้สนามหญ้ามีความอุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้สิ่งอำนวยความสะดวกจะต้องมีอย่างครบครัน ทั้งที่พัก, สถานที่ฟื้นฟูร่างกาย, สระว่ายน้ำ และยังมีที่สำหรับการเก็บตัวของทีมฟุตซอลและฟุตบอลชายหาด ในที่เดียว”
“โดยตอนนี้อยู่ในขั้นตอนรับมอบที่ดิน และกำลังวางแผนในการสร้างทุกอย่างให้มีพร้อมตามที่ต้องการ ซึ่งเรากำลังหาแหล่งที่มาของเงินลงทุนหรือผู้สนับสนุน โดยสิ่งที่ต้องการคือต้องการให้สถานที่แห่งนี้เสร็จเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
“สำหรับการวางแผนดังกล่าว เราได้ลงนามกับทางฟีฟ่าไปแล้วตลอดทั้ง 4 ปี ภายใต้โครงการ FIFA Forward เพื่อแสดงความโปร่งใสในการดำเนินงาน โดยทางฟีฟ่าจะมีการติดตามและประเมินการจัดการแผนที่ได้นำเสนอไป หากเราไม่สามาถทำตามระยะเวลาที่กำหนด ก็จะมีบทลงโทษ และถูกระงับการสนับสนุน”
โดยโครงการ FIFA Forward Project Based คือโครงการที่สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติมอบเงินให้ชาติสมาชิกเพิ่มเติมปีละ 27 ล้านบาท เป็นเวลา 4 ปี ซึ่งที่ผ่านมาทางสมาคมฯ ได้เซ็นสัญญาลงนาม และดำเนินงานตามแผนงานที่นำเสนอกับฟีฟ่า โดยปี 2016 ได้ทำการสร้างออฟฟิศที่ทำการและงานทรัพยากรบุคคล ขณะที่ในปี 2017 ถูกนำไปใช้ในส่วนการวางแผนปฏิรูปพัฒนาฟุตบอลระยะยาว 20 ปี รวมถึงสร้างศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติที่ลงสนามบันทึกข้อตกลงร่วมกันกับมหาวิทยาลัย กรุงเทพ-ธนบุรี, โรงพยาบาลตำรวจ และเอคโคโน
และเมื่อเดือนกรฎาคมที่ผ่านมา สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ก็ได้ส่ง ปิยภัทร สโรบล เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างประเทศร่วมทำงานกับฟีฟ่าภายใต้โครงการ FIFA Forward เป็นประเทศแรกในโลก เพื่อประสานงานและช่วยเหลือประเทศต่างๆในการเขียนแผนงานเพื่อนำเสนอโครงการดังกล่าว
ขอบคุณข้อมูลและภาพ : Fair
