ข่าวฟุตบอล ไทยลีกบิ๊กอ๊อด พูดถึง ความสำคัญของศึก ฟุตบอล M-150 คัพ
บิ๊กอ๊อด

บิ๊กอ๊อด

การแข่งขันฟุตบอล M-150 คัพ ได้มีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการและจับสลากแบ่งสายไปแล้ว เมื่อช่วงเช้าวันที่ 7 พฤศจิกายน 2560 ที่โรงแรมแบงค็อก แมริออท มาคีส์ ควีนปาร์ค

โดยผลการจับสลากแบ่งสาย มีดังนี้ สายเอ ประกอบไปด้วย ทีมชาติไทย, เกาหลีเหนือ และญี่ปุ่น สาย บี ประกอบไปด้วย เวียดนาม, เมียนมา และอุซเบกิสถาน

ซึ่ง พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ ได้กล่าวถึงการจัดการแข่งขันฟุตบอลรายการดังกล่าวว่า “การแข่งขันฟุตบอล M-150 คัพ ถือว่าเป็นครั้งแรก การแข่งขันรายการนี้ เราได้เชิญชาติเข้าร่วมการแข่งขันที่มีมาตรฐานสูง อาทิ ญี่ปุ่น, เกาหลีเหนือ, อุซเบกิสถาน, เมียนมา และ เวียดนาม”

“การแข่งขันฟุตบอล M-150 คัพ ก็ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เข้าร่วมการแข่งขัน เพื่อเปิดโอกาสในการพัฒนานักฟุตบอลทีมชาติไทยในอนาคต เพราะทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี คือ อนาคตของทีมชาติไทย ชุดใหญ่ การที่ทีมรุ่นนี้ได้แข่งขันกับทีมที่มีมาตรฐานสูง ถือเป็นการสร้างประสบการณ์ และยกระดับมาตรฐานขึ้น เพื่อให้พร้อมสำหรับการเป็นทีมชาติไทยชุดใหญ่ในอนาคต”

“การเลือกสนาม ไอ-โมบาย สเตเดียม ที่จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นเพราะสมาคมฯ มีนโยบายในการกระจายกีฬาฟุตบอลไปสู่ภูมิภาคต่างๆ เพื่อสร้างกระแสฟุตบอลให้เกิดขึ้นในประเทศไทย ไม่ใช่แค่ที่บุรีรัมย์เท่านั้น ในอนาคตเราจะหมุนเวียนไปจังหวัดต่างๆ ที่มีความพร้อมสมบูรณ์ และเป็นที่ยอมรับ”

“การจัดการแข่งขันครั้งนี้ถือเป็นก้าวหนึ่งในการกระตุ้นให้สโมสร หรือ เจ้าของทีม ในการพัฒนาสนามให้อยู่ในระดับ เอเชีย เพราะในวันข้างหน้า ถ้าเราจะก้าวไปสู่ระดับเอเชีย มาตรฐานของคลับ ไลเซนซิง ก็ต้องสูงขึ้นตามไปด้วย ทั้งเรื่องมาตรฐานสนาม ไฟส่องสว่าง จำนวนที่นั่งของแฟนบอล มันเป็นส่วนประกอบที่ทางเอเอฟซี กำหนดไว้ เราก็ต้องพัฒนาเพื่อเตรียมพร้อม ถ้าหากวันข้างหน้า หากประเทศไทยอยากเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลเอเชียน คัพ เราก็ต้องจัดเตรียมสิ่งเหล่านี้ไว้เพื่อรองรับให้ได้”

“จากรายชื่อประเทศที่เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอล M-150 คัพ ทีมต่างๆ ที่เข้าร่วมนั้นคล้ายคลึงกับการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี อาทิ ญี่ปุ่น, เกาหลีเหนือ ซึ่งเราก็อยู่ในสายเดียวกับสองทีมนี้ การที่เราได้โอกาสแข่งขันกับทีมเดียวกัน ก็ถือเป็นการเตรียมทีมไปในตัว และเราก็มีประสบการณ์ในการเจอกับทีมนี้มาแล้ว และทำได้ดีขึ้น นั่นก็แปลว่าเราพัฒนาขึ้นมา มและยังได้ประสบการณ์มาพัฒนา”

“จากการทำงานร่วมกันระหว่างทีมโค้ชกับฝ่ายเทคนิค เราได้มอบนโยบายให้สรรหานักเตะหน้าใหม่ที่มีความสามารถ เพื่อทำให้ทีมพัฒนาขึ้น ตรงนี้เป็นนโยบายของสมาคมฯ ต้องชัดเจน เราอยากให้มีการพัฒนาการเล่นทุกรุ่นอายุ และไปในทิศทางเดียวกัน ไม่เกิดความสับสนในรูปแบบการฝึกซ้อม และทำให้ทีมแข็งแกร่งกว่าการเปลี่ยนแปลงสไตล์ไปมา”

“นักเตะไทยเท่าที่ได้คุยกับผู้ฝึกสอน หลายคนมีความสามารถเพียงพอที่จะไปเล่นต่างแดน แต่ขึ้นอยู่กับว่านักเตะเหล่านั้นจะสร้างโอกาสให้ตัวเองมากน้อยแค่ไหน เพราะการถูกเลือก หรือถูกซื้อไปต่างประเทศ พวกเขาต้องทำงานหนักกว่าเดิม และสร้างผลงานออกมาในเกมระดับนานาชาติ สมาคมฯ นั้นยินดีให้การสนับสนุน ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ สมาคมฯก็พร้อมผลักดันเพื่อให้เขามีประสบการณ์ ความเป็นมืออาชีพ เปลี่ยนทัศนคติการเล่นฟุตบอล เพราะการเป็นนักฟุตบอลที่ดีต้องมีทัศนคติแบบไหน ต้องทำตัวอย่างไร มันไม่ใช่เรื่องง่าย ที่นักกีฬาทุกคนจะทำได้ ไม่อย่างนั้นโลกนี้คงไม่มีซูเปอร์สตาร์”

“ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เท่าที่พูดคุยกับ ประธานเทคนิค และ หัวหน้าผู้ฝึกสอน พวกเขาบอกว่ายังมีหลายสิ่งต้องปรับปรุง โดยเฉพาะเรื่องประสบการณ์ของนักกีฬา การแข่งขันระดับไทยลีก หรือ ในอาเซียน หรือในเอเชีย นั้นระดับมันแตกต่างกัน หากเราต้องการจะเข้าร่วมการแข่งขันในระดับโลก เราต้องเตรียมการแบบมีแผน ต้องมีระยะเวลา ส่วนนักกีฬาเองก็ต้องทำงานหนักกว่าที่เคยเป็น เพราะการก้าวสู่ระดับโลกไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ใช่แค่คิด แต่เราต้องลงมือทำด้วยครับ”

“ทางสมาคมฯ ก็ขอขอบคุณ ผู้บริหาร M-150 คัพ ที่ได้จัดการแข่งขันฟุตบอลรายการนี้ขึ้นมา ท่านก็เป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในการพัฒนาวงการฟุตบอล เพราะยามที่มีการแข่งขัน คือการสร้างประสบการณ์และพัฒนากีฬาฟุตบอลไทยขึ้นมา ฝากถึงแฟนบอลชาวไทย ทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี จะแข่งขันฟุตบอลรายการ M-150 คัพ เสียงเชียร์หรือผู้เล่นคนที่ 12 ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักฟุตบอล กำลังใจไม่ว่าที่ขอบสนามหรือที่บ้าน จะเป็นแรงบันดาลใจให้นักเตะสร้างผลงานและชื่อเสียงให้กับประเทศ และบางทีเราอาจจะเห็นนักกีฬาในวันนี้พาทีมชาติไทยไปฟุตบอลโลกได้ในอนาคต”

“เป้าหมายในการแข่งขันชิงถ้วย M-150 คัพ ถ้าเราคาดหวัง เราก็อยากจะได้แชมป์ เพราะนี่เป็นการแข่งขันครั้งแรก อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญที่สุดก็คือเรื่องของประสบการณ์ และบอกตัวเองได้ว่าจุดอ่อนจุดแข็งของเราคืออะไร เราต้องพัฒนาอะไร เราต้องนำการแข่งขันครั้งนี้มาเป็นประโยชน์ในการพัฒนาทีมต่อไป”

โดยการแข่งขันฟุตบอล M-150 คัพ จะเริ่มวันที่ 9-15 ธันวาคม 2560 ที่สนามไอโอมาย สเตเดียม จ.บุรีรัมย์ ซึ่งช่อง True4U จะถ่ายทอดสดทุกนัดที่ทีมชาติไทย ลงแข่งขัน

 ข้อมูลและภาพ Fair