นัดสำคัญ 2 คู่ บิ๊กแมตซ์ไทยลีก ช่องว่างคะแนน จะขยับใกล้กันหรือห่างกันมากขึ้น
เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด – แบงค็อก ยูไนเต็ด (20.00 น.)
สนามเอสซีจี ถ่ายทอดสดทรูสปอร์ต 2, ทรูสปอร์ต เอชดี 2
โค้ชแบน ธชตวัน ศรีปาน หัวหน้าผู้ฝึกสอนของ “กิเลนผยอง” เพิ่งจะออกมาประกาศกร้าวว่าไม่มีทางเลือกนอกจากต้องคว้าสามคะแนนเหนือ “แข้งเทพ” ให้ได้เท่านั้น
ในศึกบิ๊กแมตช์ไทยลีก ทำให้เกมนี้เชื่อว่าอดีตมิดฟิลด์จอมคลาสสิครายนี้ น่าจะยังคงยึดผู้เล่นชุดเดิมจากเกมนัดที่เอาชนะ สุพรรณบุรี เอฟซี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
แต่อาจจะกำชับให้คู่เซนเตอร์อย่าง นาโออากิ อาโอยามะ และเซลิโอ นั้นคอยระวังแนวรุกของ แบงค็อก ยูไนเต็ด
โดยเฉพาะดูโอต่างชาติอย่าง ดราแกน บอสโควิช และ “ซูเปอร์ มาริโอ” มาริโอ ยูรอฟสกี้ เป็นพิเศษ
เอสซีจี เมืองทองฯ ยังมีปัญหาเดียวคือ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ นายทวารมือ 1 ที่บาดเจ็บอยู่ ฉะนั้น ประสิทธิ์ ผดุงโชค จะได้เฝ้าเสาแทนต่อไป
ขณะที่แดนกลางยังอัดแน่นด้วยชุมกำลังดีกรีทีมชาติไทยเป็นแกนหลักทั้ง ธีราทร บุญมาทัน, มิดฟิลด์รูปหล่ออย่าง ชาริล ชัปปุยส์ โดยมี วัฒนา พลายนุ่ม คอยปัดกวาดในพื้นที่อันตราย
ส่วนในแนวรุกยังคงมั่นใจใช้สองแข้งต่างชาติทั้ง เฮแบร์ตี้ – เลอันโดร โดยมี “กัปตันมุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ที่พร้อมเป็นทั้งหัวหอกตัวอันตราย และเป็นตัวฟรีขับเคลื่อนเกมรุกของทีม
เอสซีจี เมืองทองฯ ยังมีปัญหาเดียวคือ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ นายทวารมือ 1 ที่บาดเจ็บอยู่ ฉะนั้น ประสิทธิ์ ผดุงโชค จะได้เฝ้าเสาแทนต่อไป
มาโน่ โพลกิ้ง จะได้แอนโธนี อำไพพิทักษ์วงศ์ กลับมาจากโทษแบน ส่วน มานูเอล ทอม เบียห์ร นั้นไม่สามารถลงเล่นได้อย่างแน่นอนเนื่องจากอาการกระทบกระเทือนที่สมอง
คาดว่าต้องพักประมาณ 1-2 อาทิตย์ ทำให้เกมนี้ “แข้งเทพ” น่าจะมีการปรับทัพจากเกมที่เอาชนะ “สวาทแคท” เล็กน้อย
ด้วยการจับพุทธินันท์ วรรณศรี มาดูแลในเกมรับร่วมกับ โยฮัน ทาวาเรส ที่เพิ่งจะเบิกสกอร์ได้ในนัดล่าสุด ขณะที่มิก้า ชูนวลศรี และเอร์เนสโต้ ภูมิภา ยังน่าจะเป็นตัวเลือกลำดับแรกๆ เช่นเคย
ส่วนสามประสานตรงกลางวันนี้ นอกจากแอนโธนี แล้ว กุนซืออย่าง มาโน่ โพลกิ้ง ยังคงไว้ใจใช้บริการสองดาวเตะทีมชาติไทยทั้งปกเกล้า อนันต์ – สรรวัชญ์ เดชมิตร
ส่วนแนวรุกแน่นอนว่ายังคงเป็นอดีตสองแข้งของ “กิเลนผยอง” ที่พร้อมจะกลับมาทำแสบในถิ่นเก่าไม่ว่าจะเป็น มาริโอ ยูรอฟสกี้ กับ ธีรเทพ วิโนทัย โดยวาง ดราแกน บอสโควิช ดาวซัลโวของลีก 30 ประตู ล่าตาข่าย
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด – บางกอกกล๊าส (20.00 น.)
สนามไอ โมบาย ถ่ายทอดสดทรูสปอร์ต เอชดี 3
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะไม่มี ศศลักษณ์ ไหประโคน ที่เจ็บ แต่ กรกช วิริยะอุดมศิริ หายเจ็บกลับมาแล้วพร้อมลงเล่นแทน ขณะที่ จักรพันธ์ แก้วพรม
ที่ได้พักในเกมล่าสุดจะกลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง ประสานงานแดนกลางกับ โก ซุล กิ โดยมี ดิโอโก ซานโต้ 18 ลูก กับ แจ็คสัน โคเอลโญ่ 27 ลูก จับคู่ล่าตาข่ายด้วยกัน
บางกอกกล๊าส มีปัญหาในการจัดทัพครั้งใหญ่ เมื่อ สุรชาติ สารีพิมพ์ กับ ยัสมานี่ คัมโปส 2 ตัวหลักในเกมรุกติดโทษแบนทั้งคู่
แถม ดาเนี่ยล การ์เซีย โรดริเกวซ โตติ, ชาตรี ฉิมทะเล, ศราวุฒิ มาสุข และฌัฐชัย ศรีสุวรรณ มีอาการบาดเจ็บทั้งหมด แต่พอมีข่าวดีเล็กๆ อาเรียล โรดริเกวซ กองหน้าทีมชาติคอสตาริก้าพ้นโทษแบนกลับมา
หลังๆได้ลุ้นกันสนุกทั้งแฟนๆ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เพราะ บุรีรัมย์ ก็เล่นอืดๆลง หลายๆนัดก็ยิงได้แค่ลูกเดียว
ตรงข้ามกับ เอสซีจี เมืองทอง ที่หลังๆ อัสซัมเซา กับ เฮเบอตี้ เริ่มจูนติดกับทีมโดยเฉพาะ อัสซัมเซา อันตรายมาก
บิ๊กแมตซ์ไทยลีกพรุ่งนี้ช่องว่างคะแนนระหว่างบุรีรัมย์กับเมืองทองจะขยับใกล้กันมากขึ้นหรือจะห่างกันมากขึ้น
กรณีที่ 1 ถ้าบุรีรัมย์ชนะบีจี แต่เมืองทองเสมอหรือแพ้บียู ช่องว่างคะแนนระหว่างบุรีรัมย์กับเมืองทองจะเพิ่มขึ้นเป็น 8-9 แต้ม
กรณีที่ 2 ถ้าบุรีรัมย์แพ้หรือเสมอบีจี แต่เมืองทองชนะบียู ช่องว่างคะแนนระหว่างบุรีรัมย์กับเมืองทองจะลดลงเป็น 3-4 แต้ม
ถ้าเป็นกรณีที่ 1 ถ้าบุรีรัมย์ชนะแต่เมืองทองถึงขั้นแพ้บียู บางทีการตัดสินแชมป์อาจจะจบเพียงแค่วันที่ 22 ตุลาคมเท่านั้น
ถ้า 3 นัดถัดไปบุรีรัมย์ชนะราชบุรี สุโขทัยและ สุพรรณบุรีได้แม้จะชนะแค่ 1-0 ทุกนัดก็จะเป็นแชมป์ทันที ในกรณีนี้งานยากที่สุดของบุรีรัมย์จะอยู่ในนัดที่ไปเยือนราชบุรีเท่านั้น
ถ้าผ่านราชบุรีได้ นัดเหย้าสุโชทัยกับนัดไปเยือนสุพรรณ บุรีรัมย์ต้องการชนะเพียงแค่นัดละ 1 ลูกเท่านั้นคือได้ 3 แต้มในแต่ละนัดก็เพี่ยงพอกับการเป็นแชมป์ลีคได้
แม้จะเหลืออีก 3 นัดในเดือนพฤศจิกายน แต่ถ้าบุรีรัมย์ชนะและเมืองทองเสมอ การลุ้นแชมป์ของบุรีรัมย์คือการไปแบ่งแต้มกับเทโรในบ้านตัวเองหรือเอาชนะเทโรในบ้านตัวเอง
ถึงได้แชมป์ตามที่คุณเนวินตั้งใจไว้ว่าจะฉลองแชมป์ในบ้านของตัวเอง ซึ่งการเจอเทโรทุกครั้งไม่เคยเป็นงานง่ายของบุรีรัมย์
ถ้าเป็นกรณีที่ 2 ถ้าบุรีรัมย์แพ้หรือเสมอบีจี แต่เมืองทองชนะบียู บางทีการตัดสินแชมป์อาจจะต้องรอจนถึงนัดสุดท้ายที่บุรีรัมย์เจอกับชลบุรี เพราะนั่น
หมายความว่า 6 นัดที่เหลือบุรีรัมย์ต้องเก็บ 3 แต้มให้ได้ 5 นัดแพ้หรือเสมอได้เพียงนัดเดียว ซึ่งเป็นงานยากพอสมควรเพราะต้องออกไปเยือนราชบุรีและบียูและรับการมาเยือนเของเทโร
ซึ่งเป็นของแสลงซึ่งหนักมาก ถ้าเป็นกรณีที่ 2 นักเตะบุรีรัมย์อาจจะกดดันจนอาจสะดุดนัดใดนัดหนึ่งใน 6 นัดที่เหลืออีกก็ได้