เนวิน ชิดชอบ ชี้แจงสาเหตุที่โดดมารับหน้าที่ ช่วยทีมชาติไทย ชุดเยาวชน หลังจากที่สร้างอาณาจักรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาก่อนหน้านี้
เนวิน ชิดชอบ เผยสาเหตุสำคัญที่ทำให้เขาเลือกมาช่วยทีมชาติไทย ชุดเยาวชน พร้อมเผยแผนงานทุกอย่าง
สำหรับ เนวิน ได้ส่ง ชนม์ชนก ชิดชอบ มาเป็นผู้จัดการทีมชาติไทย U18 พร้อมเตรียมให้เยาวชนปักหลักฝึกซ้อมที่บุรีรัมย์
“บุรีรัมย์อยู่กับฟุตบอลไทยมากว่าสิบปี นี่คือวันแรกที่บุรีรัมย์เข้ามาเกี่ยวข้องอย่างเป็นทางการกับทีมชาติไทย ส่วนตัวมองว่าการทำทีมชาติไทยที่ให้ผู้จัดการทีมเข้ามาทำทีมชาติไทยเป็นชุดๆแล้วหวังจะไปฟุตบอลโลกมันคือการละเมอไม่ใช่ความฝัน ดังนั้นเมื่อเคยวิพากษ์วิจารณ์สมาคมฯไปเยอะแล้วก็ขอลงมาทำด้วยตัวเองบ้าง” เนวิน กล่าว
“ผมเคยวิจารณ์สมาคมฯและการทำงานของสมาคมฯอย่างรุนแรง จนไปเจอแฟนบอลวิพากษ์วิจารณ์กลับบ้างว่าทำไมไม่ทำเอง ถ้ามัวแต่พูดแล้วไม่ทำจะได้อะไร ทุกวันนี้มีแต่คนติแต่ไม่ช่วยกันทำ ผมเลยตัดสินใจว่าเริ่มนับ 1 ตั้งแต่ตอนที่นายกสมาคมฯเชิญไปยังสโมสรต่างๆว่าใครมีโครงการจะช่วยการพัฒนาให้เสนอเข้ามาเพื่อสร้างความฝันของฟุตบอลไทย”
“สิ่งที่บุรีรัมย์เชื่อมาตลอดคือวินัยและพรแสวงเป็นหัวใจสำคัญในการทำฟุตบอลให้ประสบความสำเร็จ สโมสรมีประสบการณ์จากการสร้างนักเตะอย่าง สุภชาติ สารชาติ ศุภณัฎฐ์ เหมือนตา และอีกหลายคนมาแล้วว่าต้องสร้างยังไง บุรีรัมย์อยู่กับเรื่องพวกนี้มาเป็นสิบปี”
“เรามีประสบการณ์ไม่ดีตอนส่งเด็กมาเล่นทีมชาติไทยรุ่น 17 ปีแล้วได้สิ่งไม่ดีกลับไป ตอนนั้นเลยบอกว่าจะไม่ปล่อยนักเตะมาให้ทีมชาติไทยแล้ว แต่แฟนบอลบอกว่าถ้าเป็นอย่างนี้แล้วต่อไปทีมชาติไทยจะเอายังไง ผมเลยตัดสินใจว่าบุรีรัมย์จะเข้ามาเป็นเจ้าภาพ คือออกค่าใช้จ่ายทุกอย่างทั้งผู้ฝึกสอน การฝึกซ้อม ดูแลนักเตะ 1 รุ่นให้กินอยู่เรียนหนังสือที่บุรีรัมย์ ทุกคนมีหน้าที่คือเรียนและเล่นฟุตบอลเท่านั้น”
“หลักการคือสร้างเด็กในรุ่นอายุที่เกิด พ.ศ.2548-2549 ไปตลอดจนถึงปี 2025 นักเตะคนไหนที่มีสัญญาก็เป็นสิทธิ์ส่วนตัวของแต่ละคนไม่ใช่ของบุรีรัมย์ เป้าหมายคือในฟุตบอลอายุไม่เกิน 19 ปีชิงแชมป์เอเชีย 2024 ต้องผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายให้ได้ และแอบตั้งความหวังไว้ลึกๆว่าจะไปฟุตบอลอายุไม่เกิน 20 ปีชิงแชมป์โลก 2025”
“ตัววัดเป้าหมายของบุรีรัมย์กับสมาคมฯคือการผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายของเอเชีย ถ้าทำได้ถือว่าสอบผ่านแล้วค่อยมาประเมินกันต่อกับสมาคมฯว่าจะเอาไง แต่หากทำไม่ได้เราพร้อมพิจารณาตัวเอง ส่วนเป้าหมายไปเยาวชนโลกต้องบอกว่ายากกว่าฟุตบอลโลกเพราะมีโควตาแค่ 4 ทีมเท่านั้น แต่เราก็หวังว่าจะโชคดี”
“โค้ชมีประสบการณ์ทำทีมเยาวชนหลายแห่ง ทำทีมชาติคูเวตชุดใหญ่ ทำสโมสรระดับชั้นนำ มีดีกรีโปรไลเซนส์ด้วย ที่สำคัญคือโค้ชจากยุโรปตะวันออกค่อนข้างมีจุดเด่นเรื่องวินัยเลยตัดสินใจเลือกมาเพราะเคยทำเยาวชนทีมชาติของเซอร์เบียมาแล้ว”
“บางคนอาจสงสัยว่าบุรีรัมย์ใช้ มาซาทาดะ อิชิอิ เป็นโค้ช แต่ทำไมไม่ใช้ เจแปน เวย์ สร้างทีมเยาวชน ผมบอกเลยว่าตั้งแต่ทำงานกันมาโค้ชญี่ปุ่นถ้าเปรียบเป็นครูคือเหมาะกับห้องคิงส์ คือจะเหมาะกับการทำนักเตะที่มีความสามารถอยู่แล้ว แล้วค่อยมาเข้าระบบเท่านั้น แต่ถ้าเป็นเยาวชนต้องเน้นวินัย ถ้าเป็นโค้ชเอเชียคือเกาหลีสไตล์ที่วินัยเข้ม ดุ แต่ถ้าเป็นยุโรปต้องเป็นฝั่งยุโรปตะวันออก”
“เงื่อนไขมีชัดเจนคือการคัดนักเตะทั่วประเทศ ทุก 3 เดือนจะมีการประเมิน โค้ชต้องมีสถิติทั้งหมดว่าใครดีหรือไม่ดีตรงไหน หลังจากนั้นอีก 3 เดือนต้องพัฒนาต่อไปด้วย ไม่งั้นในเดือนที่ 6 จะถูกตัดออก แล้วจะมีการทดสอบเติมคนเข้าไปตลอดเวลา เราจะทำอย่างนี้ไปจนถึงทัวนาเมนต์แข่งขันชิงแชมป์เอเชียที่สมาคมฯจะวัดผลงานว่าผ่านหรือไม่ผ่าน”
“กำหนดการเปิดคัดตัวผู้เล่นแบบโอเพ่นน่าจะเป็นวันที่ 23-25 ธ.ค.นี้ รอบแรกจะคัดไว้ประมาณ 200 คน รอบสองคัดเลือกให้เหลือ 100 คนเพื่อมาเข้าแคมป์อยู่ด้วยกันก่อน 2 สัปดาห์ จากนั้นจะตัดเหลือ 50 คนเพื่อเข้าแคมป์ทีมชาติไทยต่อไป โดยบุรีรัมย์จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ยกเว้นแค่ตอนไปแข่งขันต่างประเทศเท่านั้น”
“นักเตะทุกคนไม่จำเป็นต้องเป็นเด็กของบุรีรัมย์ ใครมีสัญญากับสโมสรไหนก็ว่ากันไปตามระบบฟุตบอลอาชีพ ส่วนการทำทีมชาติไทยชุดอื่นเป็นเรื่องของสโมสรสมาชิกถ้าอยากจะทำก็เชิญ แต่บุรีรัมย์เจียมตัวขอทำแค่รุ่นเดียว ที่ผ่านมาวิพากษ์วิจารณ์สมาคมฯไว้เยอะเลยขอมาลองทำเองด้วยบุคลากรของบุรีรัมย์ หลักการมันอยู่แค่นี้ถึงตัดสินใจเข้ามาทำ”