ชินโซ โคโรกิ เผยหลังสร้างสถิติเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ยิงประตูในเจลีก 18 ฤดูกาลติด
ชินโซ โคโรกิ กองหน้าวัยเด๋าของ อุราวะ เรด เปิดเผยความรู้สึกหลังทำประตูในเกมกับ โชนัน เบลมาเร่ ได้เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2024
โดย ชิน โซ กลายเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ในลีกสูงสุดของประเทศญี่ปุ่นที่ยิงประตูได้ 18 ฤดูกาล ติดต่อกัน
“ผมคิดว่าประตูที่ผมทำได้นั้นไม่จำเป็นต้องสวยงามเสมอไป แต่คิดว่าการได้ประตูจากการผสานงานแล้วจบที่เราได้นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับผม, แม้ผลการแข่งขันของเกมนี้จะออกมาเสมอ 4-4 ก็ตาม แต่สำหรับผมแล้วมันถือว่าสำคัญอย่างยิ่ง และการเสมอนั้นถือว่าไม่เสียหายอะไรมากนักหากแต่ว่ามันแสดงให้เห็นแล้วว่าเรามีศักยภาพที่จะยิงประตูได้ถึง 4 ลูก ภายในเกมๆ เดียว แต่อย่างไรก็ดีเป้าหมายของทีมคือการที่จะยกระดับให้มากกว่าเมื่อปีที่ผ่านมาทั้งในแง่ของการทำประตูและสร้างเกม ดังนั้นการที่ไม่สามารถชนะได้นั้นถือว่าพวกเราพลาดพอสมควร แต่มองในแง่ดีคือเรามีพัฒนาการณ์ขึ้นเช่นกัน”
“เราสามารถคุมเกมได้ใน 20 นาทีแรก และเราก็มีโอกาสยิงประตูได้หลายครั้งซึ่งมากกว่า 1 ประตู และหากเราไม่ได้ลูกที่ 2 และ 3 ในเกม นั่นย่อมเปิดโอกาสให้คู่ต่อสู้ใช้โอกาสด้วยเช่นกัน นั่นจึงเป็นเกมที่ออกมายากลำบากสำหรับพวกเรา”
“การสร้างสถิติยิงประตูได้ถึง 18 ฤดูกาลในครั้งนี้ ผมเชื่อมั่นว่าผมสามารถทำได้มาตลอด นั่นเพราะเราได้มีโอกาสที่จะลงสนามอย่างต่อเนื่องเพื่อพิสูจน์มัน และต้องขอขอบคุณผู้ปกครองของผมด้วยเช่นกันที่มอบร่างกายที่แข็งแรงโดยไร้โรคภัยให้แก่ผม”
“แน่นอนการพังสถิติในการยิงติดต่อกันบนอาชีพค้าแข้งคือตัวเลขที่แสดงให้เห็น แต่นั่นก็เป็นแค่เพียงด้านสถิติเท่านั้น แต่หากในแง่ของความทรงจำสำหรับแต่ละคนที่เคยทำได้แล้ว ผมคิดว่าผมอยากจะขยับเข้าใกล้พวกเขาเหล่านั้นให้ใกล้เข้าไปอีก”
“โดยส่วนตัวแล้ว ผมเองไม่ใช่คนที่กระหายที่จะมุ่งเป้าทำประตูอย่างเดียวเท่านั้น แต่หากทำประตูได้ผมก็รู้สึกดีใจโดยเฉพาะเมื่อโอกาสมาถึงและสามารถจบสกอร์นั้นได้, ผมอาจจะไม่ใช่กองหน้าสไตล์ยอดศูนย์หน้าอย่าง โยชิโตะ (โอคุโบะ) หรือ ฮิซาโตะ (ซาโต) ประมาณนั้นครับ”
“ตั้งแต่ได้ออกสตาร์ทตัวจริงในเกมกับซัปโปโรเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านี้ และสามารถทำประตูได้ในเกมกับโชนันเกมนี้ ผมมองว่าหากอยากยืดระยะเวลาการเล่นฟุตบอลออกไปเราควรต้องปรับเปลี่ยนบางอย่างที่เคยทำในการเล่นให้ได้ เช่นเมื่อก่อนผมมักจะพาบอลไปเองอยู่เสมอ ดังนั้นผมจึงเปลี่ยนสไตล์มาเป็นการเล่นลักษณะตัวเป้ามากยิ่งขึ้นเมื่อเราอายุมากขึ้น และผมก็คิดว่ายังคงต้องหาปรับตัวขึ้นเรื่อยๆ กับการเล่นต่อจากนี้”