ผมย่างก้าวเข้ามาสู่ทัพฉลามชล ได้ก็ปาเข้าสู่ปีที่ 8 แล้ว และ นักเตะคนนึง ที่เมื่อ 8 ปีที่แล้ว ผมได้เห็นพัฒนาการของเด็กคนนี้ และขอบอกเลยว่ามีอนาคต ที่สวยงามรออยู่ปลายขอบฟ้า
การวางบอลที่แม่นยำ และ การเข้าบอลที่หนักแน่น เกินวัย แววตา ท่าทาง รูปร่าง วิสัยทัศน์ในสนาม จนผมเคยพูดกับใครหลายคนว่า “ทำไมไม่ลองจับ แระห์ ไปเล่นมิดฟิลด์?”
คำตอบที่ได้มาก็คือ “ไอ้แระห์มันเล่นกองกลางไม่ได้หรอก มันเคยจะโดนประเมิณออก จากอะคาเดมี่หลายครั้งแล้ว ก็ เพราะตำแหน่งนี้แหล่ะ”
สิ่งนี้คือคำตอบ ที่ผมได้ถามใครหลายๆคน ที่อยู่ที่ชลบุรี มาก่อนผม ผมก็เหมือนเด็กใหม่คนนึง ที่เพิ่งก้าวเข้ามาในรั้วสีน้ำเงิน ในช่วงเวลานั้น (อันนี้คือย้อนไปประมาณ 6- 7 ปี ที่แล้วนะครับ)
มันก็จริงครับ ที่ “เจ้าแระห์” กฤษดา กาแมน หากย้อนไทม์แมชชีนในเวลานั้น ก็อายุประมาณ 14 – 15 ขวบ เด็กคนนี้ เล่นกองหลังได้อย่างแข็งแกร่ง การวางบอล และ ลูกเซ็ตพีช กลายเป็นจุดขายของเด็กคนนี้ ไม่ว่าจะทัวร์นาเม้นต์บอลเด็ก รายการไหนๆ “เจ้าแระห์” ก็ได้แสดงแสงยานุภาพ ให้คู่แข่งสิโรราบ แบบราบคาบ มาทุกสมรภูมิบอลเด็กในประเทศไทย แต่พอไปเล่นตำแหน่งกองกลาง “เจ้าแระห์” เหมือนจะดูเชื่องช้ากว่าคนอื่น ซึ่งดูเหมือนเขาจะไม่ถนัดในตำแหน่งมิดฟิลด์ กับช่วงเวลานั้น
กาลเวลาผ่าน ไม่ว่าในอดีตจะเป็นอย่างไร แต่โปรไฟล์ของเด็กคนนี้ ก็ไม่ธรรมดา เคยติดทีมชาติไทยทุกชุด ตั้งแต่รุ่นอายุ ไม่เกิน 16 ปี เรื่อยมา จนถึงทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี
ล่าสุดวันนี้เป็นวันเกิดของ “เจ้าแระห์” ที่เจ้าตัวเข้าสู่วัย 21 ปีเต็ม วินัยในตัวเอง และการมีคุณพ่อของเขาคอยดูแลอย่างเข้มงวด และใกล้ชิดตลอด จึงทำให้ “เจ้าแระห์” มีพัฒนาการตัวเองแบบก้าวกระโดด
ทัศนคติทั้งในและนอกสนาม นิสัยส่วนตัวของเขาอาจจะดูเงียบขรึม ไม่สุงสิงกับผู้คนมากมาย และเขามักจะเรียนรู้ทุกๆเรื่องจาก แข้งซุปตาร์รุ่นพี่ และที่ขาดไม่ได้ก็คือคำสั่งสอน ของ คุณพ่อเฮงซัง ผู้สรรค์สร้างเขามาตั้งแต่เยาว์วัย โดยมาผนวกกับ “โค้ชเตี้ย” กุนซือใหญ่ฉลาม ผู้สานต่อ และสั่งการ ทั้งหมดทำให้ กฤษดา กาแมน มีการเจริญเติบโต ขึ้นในทุกๆวินาที
และทีมชาติไทยชุดใหญ่ เพียงชุดเดียว ที่ “เจ้าแระห์” ยังไม่เคยสัมผัส แต่ตัวผู้เขียนก็เชื่อว่า อีกไม่นานนี้
“เจ้าแระห์” จะไปมีชื่อ อยู่ในทัพ ช้างศึก ของ นิชิโนะ อย่างแน่นอน
บทความจาก บอย บางปู เรียบเรียง
ข้อมูลจาก Chonburi Football Club