ล่าสุด ทางด้าน รองซีอีโอ พีแอลที ชี้ดีลธนบูรณ์ทำตลาดคึกคัก เชื่อหลายทีมมีเงินทุนมากพอซื้อแข้งเกรดระดับเดียว ริยาด มาห์เรซ ได้ แต่ควรควบคุมเรื่องการเงินให้มั่นคง
และ คุณ เบนจามิน ตัน รองซีอีโอ พีแอลที และ ผอ.คลับไลเซนซิ่ง สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย แสดงความคิดถึงกรณีของ เชียงราย ยูไนเต็ด ทุ่มซื้อ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ เป็นค่าตัวสถิติใหม่ เชื่อทีมจากไทยมีศักยภาพเงินทุนจะซื้อแข้งเกรดระดับโลกมาได้ แต่ต้องควรเรื่องการเงินให้มีเสถียรภาพมั่นคง ไม่เช่นนั้นอาจไม่ผ่านเกณฑ์คลับ ไลเซนซิ่ง
ส่วนทีม กว่างโซ้งมหาภัย ทุ่มเงินทำลายสถิติค่าตัวของ ธีราทร บุญมาทัน ในการดึงเอา ธนบูรณ์ เกษารัตน์ กองกลางทีมชาติไทย มาค้าแข้งในฤดูกาลหน้า ซึ่ง เบนจามิน ตัน ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของไทยลีกว่า
“โดยส่วนตัวแล้วผมว่าดีลของ ธนบูรณ์กับ เชียงราย เป็นอะไรที่น่าสนใจ เพราะว่ากรณีนี้จะคล้ายกับ ตอนที่ ธีราทร บุญมาทัน ย้ายจากบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ไป เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ทั้งสองดีลทำให้ ตลาดการซื้อขายในวงการฟุตบอลไทยมีความน่าตื่นเต้นและเกิดการสั่นสะเทือนมากขึ้น จากการลงทุนของสโมสรนั้น ที่ได้ทุ่มเงินกับโค้ชและผู้เล่นที่ดี เพื่อพัฒนาศักยภาพในทีมของพวกเขา”
“สิ่งนี้ แสดงให้เห็นถึงมูลค่าของ ฟุตบอลไทย และวิธีการในสร้างฟุตบอลไทยให้มีการพัฒนา ซึ่งหมายถึงการพัฒนาในด้านอื่นๆด้วย อย่างเช่น การพัฒนาเยาวชน สเตเดียม และอื่นๆ ทุกๆฝ่ายยังมีงานอีกมากที่จะต้องทำให้ฟุตบอลไทยก้าวไปอีกระดับ”
เบนจามิน ตัน กล่าวต่อ “การที่สโมสรเชียงรายยูไนเต็ดนั้นลงทุนเพื่อพัฒนาคุณภาพทีมผู้เล่น ทำให้พวกเขากลายเป็นทีมที่น่าจับตามอง ในฤดูกาลหน้า แต่สโมสรอาจต้องระมัดระวังในเรื่องของการเงินให้มีประสิทธิภาพและเสถียรภาพ พวกเขาอาจจะต้องดูเรื่องของค่าตัวและเงินเดือน ไม่ให้อยู่ในอัตราที่สูงเกินไป”
“หลายทีมมีการลงทุนด้วยเม็ดเงินที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด อาจทำให้พวกเขามีปัญหาเรื่องการเงินได้ สโมสรควรมีความรอบคอบหรือระมัดระวังเรื่องการใช้จ่าย เพราะนี่อาจจะเป็นสาเหตุที่จะทำให้ไม่ผ่านเกณฑ์ของคลับไลเซนซิ่งได้ หากสโมสรนั้นๆ ไม่มีมั่นคงด้านการเงิน”
“การที่ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ มีค่าตัวมากกว่า ริยาด มาห์เรซ นั่นหมายถึงว่าสโมสรไทยของเรามีกำลังที่จะซื้อตัวผู้เล่นระดับเดียวกับ มาห์เรซ ได้ รวมถึงนักเตะผู้เล่นอื่นๆ ในระดับพรีเมียร์ลีก ผมคิดว่า ค่าตัวของธนบูรณ์ ก็น่าจะซื้อเจมี่ วาร์ดี้ได้เช่นกัน”
“แต่การที่นักเตะไทยจะเป็นเล่นในต่างประเทศยังถือว่าเป็นวิธีการที่พวกเขาจะพัฒนาฝีเท้าอย่างแน่นอนที่สุด ซึ่งการก้าวสู่นานาชาตินี้จะสำคัญมากเมื่อพวกเขากลับมายังประเทศไทย แล้วก็ลงเล่นให้ทีมชาติไทยหรือในลีก”
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก : Goal Thailand
