ข่าวฟุตบอล“กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์” ยันยังไม่เลิกเล่น พร้อมเผยบทบาทการเป็นโค้ชเมืองทอง
buaksib sport news
กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์

กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ยืนยันว่าตัวเขายังไม่เลิกเล่นฟุตบอล และพูดถึงบทบาทใหม่ ในการเป็นโค้ชของเมืองทอง ยูไนเต็ด

กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ยืนยันว่าตัวเขายังไม่เลิกเล่นฟุตบอล และพูดถึงบทบาทใหม่ ในการเป็นโค้ชของ เมืองทอง ยูไนเต็ด

สำหรับ กวินทร์ ไม่ได้ลงสนามเลยในฤดูกาลที่ผ่านมา และตอนนี้ก็รับบทเป็นโค้ชประตูของเมืองทอง

“ช่วงที่ผ่านมา ผมฟื้นฟูอาการบาดเจ็บตามคุณหมอเรื่อยๆ นั่นคือเป้าหมายหลัก แต่ตั้งแต่ผมไปเบลเยียม ผมมีโอกาสอยากลองเป็นโค้ช วันหนึ่งเราอยากถ่ายทอด เอาสิ่งที่เรารู้มาในประเทศ และที่เบลเยียม และญี่ปุ่น ก็อยากเอามาถ่ายทอดให้น้องรุ่นต่อไป พอเรามีเวลาพอดี มาริโอ เขาก็บอกมา มันมีอยู่ในใจ มันเป็นอีกเป้าหมายในอนาคต เพราะในวันหนึ่งก็ต้องอยู่ในจุดนี้” กวินทร์ กล่าว

“มันร้อนวิขาไหม? ผมมองว่า การที่ไปเรียนโค้ช อย่างที่บอกตอนนั้น มันเล่นมาตลอด ทั้งลีกและทีมชาติ การเปิดอบรมเราไปไม่ได้ แต่ผมรักษาอาการบาดเจ็บและมีเปิดอบรมโค้ช ผมก็ศึกษาเพิ่ม และอยากไปอยู่จุดนั้น ก็ไปลงเรียน การเรียนโค้ชไม่ได้หมายถึงจะเป็นโค้ชได้เลย แต่กีฬาฟุตบอล โค้ชกับนักเตะต้องพัฒนาร่วมกัน ถ้าเข้าใจในทิศทางเดียวกัน ทำงานก็ง่าย พอเรียนจบ ทางเมืองทองก็ทักมาด้วย”

“ผมไม่อยากปล่อยเวลาให้เปล่าประโยชน์ ชีวิตนักฟุตบอล ถ้ารักษาร่างกายดีๆ ไม่เจ็บ มันไปได้ถึง 30 ปลายๆ แต่วันนึงก็ต้องเลิกเล่น ผมมองว่า ผมวางแผนมาสักระยะพอมีโอกาสก็เลย เรื่องการเลิกเล่นก็ยังไม่ได้ตัดสินใจ อาการมันดีขึ้น แต่ว่าตอนนี้ เราก็ต้องตามหมอตลอด เท่าที่คุยล่าสุด ของผมเป็นเรื่องข้อต่อ หมอก็บอกว่ามีข้อจำกัดในการออกแรง ตรงนั้นก็เป็นเรื่องของกระบวนการ บางอย่างเราเร่งไม่ได้”

“ที่คุยกับมาริโอ เขาไม่ได้กล่อม เหมือนเขาพูดทีเล่นทีจริงมาตอนแรก มาริโอก็เทิร์นจากนักเตะมาเป็นโค้ชเมื่อ 2-3 ปีก่อน เขาก็เอาประสบการณ์ของเขามาบอกให้ผมฟัง พอผมมาคิดดู ผมบอกไปแล้วว่า มันคือเป้าหมายต่อไปของผม ในการทำงานในวงการฟุตบอล”

“ผมมองว่าฟุตบอลไม่ใช่แค่ลงซ้อมแล้วจบ แค่ 1-2 ชั่วโมง แต่มันมีระเบียบวินัยทั้งในและนอกสนาม เวลาซ้อมในสนามวันหนึ่งเต็มที่ 2 ชั่วโมง ไม่เกิน แต่ระหว่างวันอีก 20 ชั่วโมง คุณต้องดูแลตัวเอง พักผ่อน กินอาหาร และเสริมความแข็งแกร่งของร่างกาย และมันก็สำคัญไม่แพ้กัน การเตรียมตัวมาซ้อมก็สำคัญ ทั้งใจ, ความคิด, สมาธิ นำมาสู่การซ้อม ตอนผมเป็นนักเตะ ผมไม่ได้ซ้อมเสร็จแล้วจบ ผมต้องไปคิดว่าซ้อมเป็นอย่างไร ต้องถามโค้ช ผมคุยเสมอ ผมชอบให้โค้ชแนะนำ”

“ย้อนกลับไปตอนผมเป็นนักบอล และไปเบลเยียม ทุกการซ้อม ก็มีวีดีโอแต่ละฝ่าย อยู่ที่เราจะไปขอเขาไหม ผมไปขอทุกวัน ทั้งซ้อมประตู หรือสมอลไซส์ พอเรามาดูจะได้เห็นว่าเราควรทำแบบไหน ในสถานการณ์ไหน พอเราดูบ่อยๆ ก็เกิดประโยชน์ต่อตัวเรา และมีแผนในหัวมากขึ้น ทำให้เราเห็นภาพมุมกว้างมากขึ้น พอเราไปเจออะไรมาเยอะ พอดูน้องซ้อมก็เข้าไปบอกทุกคน ก็พยายามเก็บให้เขา ใส่รายละเอียด การมาจุดฟุตบอลอาชีพ เทคนิค ทักษะต้องมีอยู่แล้ว แต่การเล่นทีมและต่อยอด รายละเอียดเล็กน้อยก็สำคัญ บางทีดึกก็ยังทำไม่เสร็จและต้องไปทำหลังตื่นนอนต่อ มันไม่ง่าย มันมีรายละเอียดเยอะเข้าใจว่าโค้ชมีรายละเอียดเยอะ”

“การทำให้โกลเป็นเหมือนผม ผมคิดว่าน้องทุกคนที่มาเมืองทองได้ ต้องมีทักษะ ฝีมือ ผมพยายามเติมในสิ่งที่ ไม่ต้องหาประสบการณ์มาจากไหน ผมหาทางลัดเข้าไป และย่นระยะเวลาในการคิด เราเสนอไอเดียให้เขา ว่าทำแบบนี้ จะเป็นแบบไหน อีกแบบเป็นอย่างไร”

“ตอนผมเล่นที่ไทย ไม่เคยเจอแบบบิวท์อัพเท่าไหร่ คนที่มาถ่ายทอดในจุดนี้สมัยนั้น ยังไม่ได้ถ่ายทอด แต่ผมมีโอกาสที่ญี่ปุ่น ที่นั่นใช้เยอะมาก และได้จากที่นั่นเยอะมาก ผมว่าองค์ประกอบที่ทำให้เล่นในระบบของโค้ชที่ต้องการได้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับประตูคนเดียว แต่รวมถึง 11 คนในทีมที่คอยซัพพอร์ต หากฟันเฟืองทำงานไม่พร้อมกัน ทิศทางคนละทิศทาง ก็จะประสบปัญหา”

“ตอนนี้ ก่อนเข้าฤดูกาลมีเวลาประมาณ 1 เดือนครึ่ง ผมพยายามใส่รายละเอียดให้เขามากที่สุด เรื่องเทคนิค ผมไม่แก้ ให้เป็นตัวของตัวเองมากที่สุด อยากรับแบบไหน ถ้าไม่เป็นผลเสีย ผมปล่อย แต่ผมจะเสริมรายละเอียดความเข้าใจเกม การยืนตำแหน่ง ประตูไม่ใช่แค่เซฟอย่างเดียวแล้ว เพื่อนรุก เราต้องจัดการอย่างไร ถ้าโดนกองหน้าเพรสมา ต้องยืนตรงไหน มันคือรายละเอียดที่ผมอยากใส่ให้เขา เป้าหมายก็คือผมอยากทำให้น้องไปอยู่ในจุดที่เขาเคยเป็นมา”

“ผมยินดีรับความกดดัน ที่ผ่านมา ความกดดันผมรับมือมาตลอดชีวิตการเป็นนักฟุตบอล ความกดดันคือความท้าทาย โค้ชส่งต่อมาให้ผม ผมก็ต้องส่งต่อให้นักเตะในทีม น้องเองต้องมีจิตใจที่แขจ็งแกร่ง และผ่านไปให้ได้ พอมาเป้นนักเตะเมืองทองคือต้องชนะทุกนัด เราต้องเตรียมตัวให้ดีทั้งในและนอกสนามมันสำคัญ เมืองทองมีประวัติศาสตร์ยาวนานและก้าวเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง”

“แคแรคเตอร์เป็นคนที่แอคทีฟตลอด และมีส่วนร่วมตลอดอันไหนไม่ดี ผมตะโกนบอก จะไม่เงียบ หงอยในสนาม หลายคนถ้าติดตามผม จะเห็นแคแรคเตอร์ผมกับในและนอกสนามนั้นแตกต่างกัน ผมพยายามให้การบ้านน้องลดลงมา และเรียนรู้รายละเอียดไปเรื่อยๆ”

“ขอบคุณ พี่โต นิพนธ์ ที่ซ้อมน้องชุดนี้ก็ปูทางมาดี ผมแค่มาดูต่อเท่านั้น และเอาสิ่งที่ผมมีรายละเอียดในใจมาเพิ่มเติมต้องขอบคุณพี่โต”

buaksib sport newsbuaksib sport news